ทำความรู้จักวิธีการทำผลตอบแทนจาก Options ได้ 2 วิธี
1. การทำกำไรจากการใช้สิทธิ Call , Put Options [เมื่อถือสัญญาจนหมดอายุสัญญา]
2. การทำกำไรจาก Premium ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง [เมื่อปิดสถานะสัญญาก่อนหมดอายุสัญญา]
ตัวอย่างการคำนวณกำไรขาดทุนของ Options
1.) SET50 Index Call Options
1.1) กรณีเปิดสถานะ Open Long Call Options
ยกตัวอย่าง
ในวันที่ (18-02-64) SET50 Index 930 จุด
นาย A คาดการณ์ว่า SET50 Index มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น
จึงเปิดสถานะ Open Long S50H21C950 จำนวน 1 สัญญา
Premium 17.1 จุด (17.1 x 200 = จ่ายออก -3,420 บาท)
+ การทำกำไรจากการใช้สิทธิ Call Options [เมื่อถือสัญญาจนหมดอายุสัญญา]
กรณีถูกทาง ได้กำไร
- เวลาผ่านไป (วันที่ 30-03-64 วันซื้อขายวันสุดท้าย) SET50 Index “เพิ่มขึ้น” เป็น 980 จุด
- กำไรจากการถือ Open Long S50H21C950
(SET50 Index 980 จุด - Strike Price 950 จุด) – Premium 17.1 = กำไร 12.9 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 12.9 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = กำไร 2,580 บาท
กรณีผิดทาง ขาดทุน
- เวลาผ่านไป (วันที่ 30-03-64 วันซื้อขายวันสุดท้าย) SET50 Index “ลดลง” เป็น 890 จุด
- ขาดทุนจากการถือ Open Long S50H21C950 = Premium 17.1 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 17.1 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = ขาดทุน 3,420 บาท
- ***ขาดทุนเพียงแค่ค่า Premium เท่านั้น
+ การทำกำไรจาก Premium (ราคา Options) ที่เพิ่มขึ้น [เมื่อปิดสถานะสัญญาก่อนหมดอายุสัญญา]
กรณีถูกทาง ได้กำไร
- เวลาผ่านไป (วันที่ 22-02-64) SET50 Index “เพิ่มขึ้น” เป็น 980 จุด (การ “เพิ่มขึ้น” ของ SET50 Index ทำให้ Premium “เพิ่มขึ้น”)
- Open Long S50H21C950 Premium “เพิ่มขึ้น” เป็น 30.1 จุด จำนวน 1 สัญญา
- นาย A เห็นว่ากำไรจึงทำการส่งคำสั่งปิดสถานะสัญญา Close Short S50H21C950
การคำนวณกำไรขาดทุน 30.1 (Premium 22-02-64) - 17.1 (Premium 18-02-64) = กำไร 13 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 13 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = กำไร 2,600 บาท
กรณีผิดทาง ขาดทุน
- เวลาผ่านไป (วันที่ 22-02-64) SET50 Index “ลดลง” เป็น 900 จุด (การ “ลดลง” ของ SET50 Index ทำให้ Premium “ลดลง”)
- Open Long S50H21C950 Premium “ลดลง” เป็น 11.1 จุด จำนวน 1 สัญญา
- นาย A เห็นว่าขาดทุนจึงทำการส่งคำสั่งปิดสถานะสัญญา Close Short S50H21C950
การคำนวณกำไรขาดทุน 11.1 (Premium 22-02-64) - 17.1 (Premium 18-02-64) = (ขาดทุน -6 จุด)
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x (ขาดทุน -6 จุด) x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = ขาดทุน 1,200 บาท
1.2) กรณีเปิดสถานะ Open Short Call Options
ยกตัวอย่าง
ในวันที่ (18-02-64) SET50 Index 930 จุด
นาย A คาดการณ์ว่า SET50 Index แนวโน้มเป็นขาลง หรือไปไม่ถึง 950 จุด
จึงเปิดสถานะ Open Short S50H21C950 จำนวน 1 สัญญา
Premium 15.3 จุด (15.3 x 200 = ได้รับ +3,060 บาท)
+ การทำกำไรจากการใช้สิทธิ Put Options [เมื่อถือสัญญาจนหมดอายุสัญญา]
กรณีถูกทาง ได้กำไร
- เวลาผ่านไป (วันที่ 30-03-64 วันซื้อขายวันสุดท้าย) SET50 Index “ลดลง” เป็น 900 จุด
- กำไรจากการถือ Open Short S50H21C950
(Strike Price 950 - SET50 Index 900 จุด = 0) + Premium 15.3 = กำไร 15.3 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 15.3 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = กำไร 3,060 บาท
กรณีผิดทาง ขาดทุน
- เวลาผ่านไป (วันที่ 30-03-64 วันซื้อขายวันสุดท้าย) SET50 Index “เพิ่มขึ้น” เป็น 980 จุด
- ขาดทุนจากการถือ Open Short S50H21C950
(Strike Price 950 - SET50 Index 980 = -30 จุด) + Premium 15.3 = (ขาดทุน -14.7 จุด)
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x (ขาดทุน -14.7 จุด) x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = ขาดทุน -2,940 บาท
+ การทำกำไรจาก Premium (ราคา Options) ที่เพิ่มขึ้น [เมื่อปิดสถานะสัญญาก่อนหมดอายุสัญญา]
กรณีถูกทาง ได้กำไร
- เวลาผ่านไป (วันที่ 25-02-64) SET50 Index “ลดลง” เป็น 912 จุด (การ “ลดลง” ของ SET50 Index ทำให้ Premium “ลดลง”)
- Open Short S50H21C950 Premium “ลดลง” เป็น 10.1 จุด จำนวน 1 สัญญา
- นาย A เห็นว่ากำไรจึงทำการส่งคำสั่งปิดสถานะสัญญา Close Long S50H21C950
- การคำนวณกำไรขาดทุน 15.3 (Premium 18-02-64) - 10.1 (Premium 25-02-64) = กำไร 5.2 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 3 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = กำไร 600 บาท
กรณีผิดทาง ขาดทุน
- เวลาผ่านไป (วันที่ 28-02-64) SET50 Index “เพิ่มขึ้น” เป็น 968 จุด (การ “เพิ่มขึ้น” ของ SET50 Index ทำให้ Premium “เพิ่มขึ้น”)
- Open Short S50H21C950 Premium “เพิ่มขึ้น” เป็น 25.6 จุด จำนวน 1 สัญญา
- นาย A เห็นว่าขาดทุนจึงทำการส่งคำสั่งปิดสถานะสัญญา Close Long S50H21C950
- การคำนวณกำไรขาดทุน 15.3 (Premium 18-02-64) - 25.6 (Premium วันที่ 28-02-64) = (ขาดทุน -10.3 จุด)
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x (ขาดทุน -10.3 จุด) x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = ขาดทุน 2,060 บาท
2.) SET50 Index Put Options
2.1) กรณีเปิดสถานะ Open Long Put Options
ยกตัวอย่าง
ในวันที่ (22 -02-64) SET50 Index 965 จุด
นาย A คาดการณ์ว่า SET50 Index มีแนวโน้มจะลดลง
จึงเปิดสถานะ Open Long S50H21P925 จำนวน 1 สัญญา
Premium 12.5 จุด (12.5 x 200 = จ่ายออก -2,500 บาท)
+ การทำกำไรจากการใช้สิทธิ Put Options [เมื่อถือสัญญาจนหมดอายุสัญญา]
กรณีถูกทาง ได้กำไร
- เวลาผ่านไป (วันที่ 30-03-64 วันซื้อขายวันสุดท้าย) SET50 Index “ลดลง” เป็น 885 จุด
- กำไรจากการถือ Open Long S50H21P925
(Strike Price 925 จุด – SET50 Index 885 จุด) – Premium 12.5 = กำไร 27.5 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 27.5 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = กำไร 5,500 บาท
กรณีผิดทาง ขาดทุน
- เวลาผ่านไป (วันที่ 30-03-64 วันซื้อขายวันสุดท้าย) SET50 Index “เพิ่มขึ้น” เป็น 990 จุด
- ขาดทุนจากการถือ Open Long S50H21P925 = Premium 12.5 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 12.5 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = ขาดทุน -2,500 บาท
- ***ขาดทุนเพียงแค่ค่า Premium เท่านั้น
+ การทำกำไรจาก Premium (ราคา Options) ที่เพิ่มขึ้น [เมื่อปิดสถานะสัญญาก่อนหมดอายุสัญญา]
กรณีถูกทาง ได้กำไร
- เวลาผ่านไป (วันที่ 01-03-64) SET50 Index “ลดลง” เป็น 903 จุด (การ “ลดลง” ของ SET50 Index ทำให้ Premium “เพิ่มขึ้น”)
- Open Long S50H21P950 Premium “เพิ่มขึ้น” เป็น 22.8 จุด จำนวน 1 สัญญา
- นาย A เห็นว่ากำไรจึงทำการส่งคำสั่งปิดสถานะสัญญา Close Short S50H21P925
- การคำนวณกำไรขาดทุน 22.8 (Premium 01-03-64) - 12.5 (Premium 22 -02-64) = กำไร 10.3 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 10.3 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = กำไร 2,060 บาท
กรณีผิดทาง ขาดทุน
- เวลาผ่านไป (วันที่ 01-03-64) SET50 Index “เพิ่มขึ้น” เป็น 980 จุด (การ “เพิ่มขึ้น” ของ SET50 Index ทำให้ Premium “ลดลง”)
- Open Long S50H21P925 Premium “ลดลง” เป็น 5.5 จุด จำนวน 1 สัญญา
- นาย A เห็นว่าขาดทุนจึงทำการส่งคำสั่งปิดสถานะสัญญา Close Short S50H21P925
- การคำนวณกำไรขาดทุน 5.5 (Premium 01-03-64) - 12.5 (Premium 22-02-64) = (ขาดทุน -7 จุด)
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x (ขาดทุน -7 จุด) x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = (ขาดทุน -1,400 บาท)
2.2) กรณีเปิดสถานะ Open Short Put Options
ยกตัวอย่าง
ในวันที่ (22-02-64) SET50 Index 965 จุด
นาย A คาดการณ์ว่า SET50 Index แนวโน้มเป็นขาขึ้น หรือลงไปไม่ถึง 925 จุด
จึงเปิดสถานะ Open Short S50H21P925 จำนวน 1 สัญญา
Premium 17.7 จุด (17.7 x 200 = ได้รับ +3,540 บาท)
+ การทำกำไรจากการใช้สิทธิ Put Options [เมื่อถือสัญญาจนหมดอายุสัญญา]
กรณีถูกทาง ได้กำไร
- เวลาผ่านไป (วันที่ 30-03-64 วันซื้อขายวันสุดท้าย) SET50 Index “เพิ่มขึ้น” เป็น 980 จุด
- กำไรจากการถือ Open Short S50H21C925
(SET50 Index 980 - Strike Price 925 จุด = 0) + Premium 17.7 = กำไร 17.7 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 17.7 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = กำไร 3,540 บาท
กรณีผิดทาง ขาดทุน
- เวลาผ่านไป (วันที่ 30-03-64 วันซื้อขายวันสุดท้าย) SET50 Index “ลดลง” เป็น 850 จุด
- ขาดทุนจากการถือ Open Short S50H21C925
(SET50 Index 850 - Strike Price 925 จุด = -75) + Premium 17.7 = (ขาดทุน -57.3 จุด)
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x (ขาดทุน -57.3 จุด) x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = ขาดทุน -11,460 บาท
+ การทำกำไรจาก Premium (ราคา Options) ที่ลดลง [เมื่อปิดสถานะสัญญาก่อนหมดอายุสัญญา]
กรณีถูกทาง ได้กำไร
- เวลาผ่านไป (วันที่ 05-03-64) SET50 Index “เพิ่มขึ้น” เป็น 960 จุด (การ “เพิ่มขึ้น” ของ SET50 Index ทำให้ Premium “ลดลง”)
- Open Short S50H21C925 Premium “ลดลง” เป็น 10.7 จุด จำนวน 1 สัญญา
- นาย A เห็นว่ากำไรจึงทำการส่งคำสั่งปิดสถานะสัญญา Close Long S50H21P925
- การคำนวณกำไรขาดทุน 17.7 (Premium 05-03-64) - 10.7 (Premium 22-02-64) = กำไร 7 จุด
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x กำไร 7 จุด x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = กำไร 1,400 บาท
กรณีผิดทาง ขาดทุน
- เวลาผ่านไป (วันที่ 05-03-64) SET50 Index “ลดลง” เป็น 900 จุด (การ “ลดลง” ของ SET50 Index ทำให้ Premium “เพิ่มขึ้น”)
- Open Short S50H21C925 Premium “เพิ่มขึ้น” เป็น 30.7 จุด จำนวน 1 สัญญา
- นาย A เห็นว่ากำไรจึงทำการส่งคำสั่งปิดสถานะสัญญา Close Long S50H21P925
- การคำนวณกำไรขาดทุน 17.7 (Premium 05-03-64) - 30.7 (Premium 22-02-64) = (ขาดทุน -13 จุด)
- ตัวคูณดัชนี (Contract Size) 200 บาท x (ขาดทุน -13 จุด) x จำนวนสัญญา 1 สัญญา = (ขาดทุน -2,600 บาท
Array ( [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV [Secure-PHPSESSID] => q8lmlclos1nafsr1g09aj3d1if )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732204632 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => ac0254efe19bbff9c06ded23b5c2b753 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Flearning-tfex%2Fexample-options.html )
Array ( [content] => example-options )
Array ( )