เมื่อ CBG บุก E-Sports ระดับโลก

---

เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2562

---

ในช่วงต้นสัปดาห์ คาราบาวกรุ๊ป หรือ CBG ผู้ผลิต ทำการตลาดและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ที่เรารู้จักกันในชื่อ “คาราบาวแดง” และเครื่องดื่มอื่นๆ ได้รุกตลาด E-Sports โดยร่วมมือกับ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Tencent (Thailand) ผู้ให้บริการด้านแพลทฟอร์มและบริการคอนเทนต์ (Content Platforms and Services) ซึ่งเน้นให้บริการเกมออนไลน์ และความร่วมมือครั้งนี้ของ CBG ออกแคมเปญร่วมกับเกมออนไลน์ชื่อดังระดับโลกอย่าง PUBG Mobile ที่ต้องบอกว่าเป็นเกมที่มีความนิยมสูงมากและมีการแข่งขันในระดับโลกอย่างเป็นทางการ…บทความในวันนี้จะมาพูดถึงกลยุทธ์ของ CBG ให้เข้าใจอย่างง่าย และนำไปใช้ในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนใน Single Stock Futures ของ CBG ได้อย่างไร

จับกระแสความนิยม PUBG บุก E-Sports

           การร่วมมือกันระหว่าง CBG และ Tencent ในครั้งนี้ CBG เรียกกลยุทธ์นี้ว่า E-Sports Marketing (ซึ่งเราอาจจะเคยเห็นตัวอย่างมาแล้ว อย่าง มาม่า ร่วมกับเกม ROV ของ Tencent เช่นกัน) จุดประสงค์ของกลยุทธ์นี้ เพื่อทำให้แบรนด์คาราบาวเป็นที่รู้จักมากขึ้น (Brand Awareness) และเพื่อเปิดตัวแคมเปญใหม่ ที่ใช้เครื่องดื่ม “คาราบาว กรีน แอปเปิ้ล” ซึ่งเป็น Energy Drink บรรจุกระป๋อง ขายดีในประเทศอังกฤษ มาเจาะกลุ่มตลาด E-sports เพียงแค่ซื้อคาราบาว กรีน แอปเปิ้ล ในราคา 15 บาท หาซื้อง่ายตาม 7-eleven แล้วส่งรหัสใต้ห่วงกระป๋อง ก็มีสิทธิได้รับของรางวัลเป็นไอเทมและอุปกรณ์ตกแต่งภายในเกม PUBG Mobile

ภาพจาก : shutterstock

กลยุทธ์นี้ G ได้ประโยชน์อย่างไร

1. Brand Awareness หรือการทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะ PUBG Mobile เป็นเกมออนไลน์บนมือถือที่มีความนิยมสูงมากในกลุ่มวัยรุ่นและเกมเมอร์จำนวนมากในประเทศไทย โดยข้อมูลจาก App Annie เผยว่า PUBG Mobile มียอด Download สูงถึง 400ล้านครั้ง และผู้เล่น Active ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านคนต่อวัน (อ้างอิงจาก efinanceThai) จึงมีโอกาสที่จะทำให้ Brand คาราบาวเป็นที่รู้จักมากขึ้น เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆมากขึ้น แน่นอนว่าหากแคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นรายได้และกำไรสุทธิของ CBG เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างการสร้าง Brand Awareness ที่สำคัญและประสบความสำเร็จของ CBG ที่ผ่านมา คือ การเป็น Official Partner กับสโมสรฟุตบอล Chelsea และเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขัน English Football League ที่เรียกว่า Carabao Cup ทำให้เครื่องดื่ม Carabao Energy Drink มียอดขายดีมากๆในอังกฤษ ทำให้ CBG มีสัดส่วนรายได้จากการขายในต่างประเทศถึง 45% (ตามรายงานประจำปี CBG 2561)

2. เป็นจุดเริ่มต้นในการส่งเสริมการขายร่วมกับธุรกิจอื่นและเป็นธุรกิจที่กำลังมาแรง โดยต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน ทำให้ CBG มีโอกาสสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นจาก Brand Awareness ที่เพิ่มขึ้น และในอนาคตเราอาจจะได้เห็นแคมเปญดีๆแบบนี้บ่อยขึ้น

มุมมองการลงทุนใน Single Stock Futures ของ CBG

ราคาหุ้นอ้างอิงของ CBG บนกระดานหุ้น (ณ วันที่ 6 ส.ค. 2562) ปิดที่ 78.25 บาท เมื่อเทียบกับต้นปี 2562 ที่ราคา 30.75 บาท มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 154% โดดเด่นกว่า Single Stock Futures ตัวอื่นที่อยู่ในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากผลประกอบการที่ออกมาดีมากโดยเฉพาะ Q4/61 ที่ประกาศในวันที่ 20 ก.พ. 2562 อยู่ที่ 512.86 ล้านบาท เติบโต 145% (+145%) เมื่อเทียบแบบ YoY ที่ออกมา 209.29 ล้านบาท แม้ว่าผลประกอบการรายปี กำไรสุทธิจะลดลง 7% (-7%) YoY ตามมาด้วยผลประกอบการ Q1/62 ที่ประกาศออกมาเติบโต 132% เมื่อเทียบแบบ YoY ตอกย้ำการเติบโตของ CBG เพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนไปอีก ราคาจึงปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง

ทางเทคนิค CBG ยังเป็นขาขึ้น โดยมีแนวรับตามเส้นเทรนด์ไลน์ (ภาพด้านล่าง) สำหรับกลยุทธ์ในการเทรด Single Stock Futures ของ CBG เรามีมุมมองในฝั่ง Long เมื่อเข้าใกล้แนวรับ เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการ Q2/62 ที่คาดว่าออกมาเติบโต รวมไปถึงการอัดแคมเปญและการบุกตลาด E-Sports หากประสบความสำเร็จ จะส่งเสริมการเติบโตอีกขั้นหนึ่งของ CBG

แต่การในเข้า Long ต้องมีการระมัดระวังความเสี่ยงของผู้ลงทุนไว้ด้วย เนื่องจากราคาหุ้น CBG มีความผันผวนสูง (วัดจากค่า Average True Range หรือ ATR อยู่ราวๆ 2.5 หมายถึง การเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาหุ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.50 บาท)

ปัจจัยเสี่ยงต่อธุรกิจของ CBG

1. CBG ต้องคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างสม่ำเสมอ และอาจจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการคิดค้น และพัฒนาสินค้าก่อนออกสู่ตลาด รวมไปถึงราคาสินค้าของ CBG ต้องสามารถเข้าถึงลูกค้าในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่ง
2. การรักษาหรือการชิงส่วนแบ่งการตลาดจากผู้ผลิตรายอื่นๆ โดยปัจจุบันเครื่องดื่มของ CBG มีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง (ในประเทศ) เป็นอันดับที่ 2 อยู่ที่ 23.2% (ตามรายงานประจำปี CBG 2561)
3. ภาษีน้ำตาล (หรือภาษีความหวาน) ที่ต้องนำไปคำนวณราคาขายจากปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม อาจทำให้ราคาขายเพิ่มขึ้น และผู้บริโภคมีความต้องการซื้อน้อยลง รวมไปถึงเทรนด์การดูแลสุขภาพของผู้บริโภค อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงต่อธุรกิจของ CBG เช่นกัน
4. อัตราแลกเปลี่ยนและเสถียรภาพของประเทศคู่ค้า

แหล่งอ้างอิง:

รายงานประจำปี CBG 2561 – http://investor.carabaogroup.com/misc/ar/20190104-cbg-ar2018-th-07.pdf