เผยแพร่เมื่อ วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
จะเรียกปี 63 นี้ว่าเป็นปีทองของ CPF ก็ว่าได้ เนื่องจากมี Story ดีเข้ามามากมายเหลือเกิน แม้ว่าราคาหุ้นจะมีช่วงพักเบรกลงตาม Sentiment ตลาดโดยรวมไปบ้าง แต่ก็ฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้เร็วจากหลายประเด็น เช่น โควิด-19 ที่กระทบ CPF เชิงลบค่อนข้างจำกัด,ประเด็นบวกจากความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้น, ราคาหมูฟื้นตัวดีขึ้น, การเกิดภัยแล้งที่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงาน Q1/63 ที่มีแนวโน้มดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ตามที่นักลงทุนคาดไว้
นอกจากนี้ ก็มีประเด็นที่ทำให้ราคาหุ้น CPF ออกอาการพักตัวในสัปดาห์ก่อนก็คือ ประเด็นทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่มีบทบาทกับตลาดหุ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯขู่จีน จีนสวนกลับสหรัฐฯ ซึ่งเกมนี้ไม่น่าจะจบง่ายๆ แต่สำหรับผม มองว่าเป็นไปได้ยากมากที่จะ “ยกเลิก” ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่เพิ่งจะเซ็นกันไป เนื่องจากจะส่งผลเสียทางเศรษฐกิจต่อทั้งสหรัฐฯ-จีนในระดับมหาศาล ยังไม่นับรวมผลกระทบจากโควิด-19 ที่ส่งผลไปแล้วในมิติของการท่องเที่ยว, การจ้างงาน และ GDP ที่ชะลอตัวลง เป็นต้น
คราวนี้มาเล่าประเด็นบวกที่เกิดขึ้นกับ CPF เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา หลังสำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า จีนมีการนำเข้าเนื้อหมูจำนวน 400,000 ตัน สู่ระดับ 1.35 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 170% เมื่อเทียบแบบ YoY เป็นผลจากราคาเนื้อหมูในจีนแพงกว่าต่างประเทศ หลังจากที่จีนเกิดการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู เมื่อปี 2562 ทำให้จำนวนหมูในจีนลดลง กระทบต่อผลผลิตเนื้อหมูลดลงตามไป และดันให้ราคาเนื้อหมูในประเทศจีนพุ่งขึ้นแพงกว่าประเทศอื่น
ส่วนสถานการณ์ราคาหมูที่มีผลต่อธุรกิจของ CPF หลักๆได้แก่ ราคาหมูในไทย ปัจจุบันมีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับ Q1/63 อาจจะเป็นผลบวกในด้านความต้องการซื้อเนื้อหมูจากต่างประเทศที่อาจจะเพิ่มขึ้น ส่วนราคาหมูเวียดนามยังมุ่งหน้าปรับตัวขึ้นต่อซึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาตั้งแต่ปี 62 (ภาพประกอบจากรายงานนำเสนอ CPF Q1/2563)
ด้านปริมาณการซื้อใน Q1/63 ทาง CPF รายงานปริมาณซื้อเพิ่มขึ้นทั้งเนื้อหมูและเนื้อไก่ ส่งผลให้รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 10%YoY และทำให้ผลการดำเนินงานดีขึ้นทั้งในแง่กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิ เมื่อเทียบกับ Q1/62 ทั้งนี้ เราคาดว่าปริมาณการซื้อเนื้อสัตว์จะเพิ่มขึ้นอีก หากแนวโน้มโควิด-19 ลดลง และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมที่มีความคืบหน้าขึ้น ซึ่งจะทำให้ร้านอาหารหรือศูนย์การค้ากลับมาดำเนินการได้ และส่งผลให้ความต้องการซื้อจากร้านอาหารต่างๆมีโอกาสฟื้นตัวกลับมา
สรุปจากประเด็นด้านปัจจัยพื้นฐานที่เรากล่าวไปข้างต้น มีโอกาสเห็นรายได้จากการขายของ CPF ดีขึ้นไปอีกใน Q2/63 เนื่องจากปริมาณความต้องการซื้อจากจีนที่เพิ่มขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมในสถานการณ์โควิด-19 เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่จะทำให้ความต้องการซื้อมีโอกาสฟื้นกลับมาได้อีก อย่างไรก็ตาม เรายังต้องติดตามประเด็นสำคัญที่จะกระทบกับราคาหุ้น CPF ดังนี้
1) สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่อาจกระทบข้อตกลงทางการค้า
2) การระบาดของโควิด-19 หากแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จะส่งผลในแง่บวก ในทางตรงข้าม หากเริ่มกลับมาแย่ลง จะส่งผลในแง่ลบ
ปัจจัยดังกล่าวเป็นสิ่งที่เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทันต่อการ Take Action ในการซื้อขายหุ้นหรือ Single Stock Futures
คราวนี้มาวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคกันบ้าง ว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร และเรามีคำแนะนำ Single Stock Futures อย่างไร
ราคาหุ้น CPF มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นมาตลอดหลังเกิด Circuit Breaker 2 ครั้งซ้อนในเดือน มี.ค. 63 ที่ผ่านมา และคอนเฟิร์มขาขึ้นจริงจังหลังทะลุแนวต้านบริเวณ 24 บาท มีจังหวะการขึ้น-การย่อที่เรียกว่า Higher High – Higher Low ต่อเนื่อง ล่าสุดราคาหุ้น CPF ก็สามารถทะลุแนวต้าน 30 บาทขึ้นมาเล่นกรอบใหม่ที่ 29-31 บาท ดังนั้นสิ่งที่เราต้องลุ้นต่อไปคือการยืนเหนือ 29 บาทในสัปดาห์นี้และจะทำการเปิด Long ใน CPFM20 ซึ่งมีสภาพคล่องดีที่สุดในขณะนี้
บริเวณที่น่าเข้า Long จะอยู่ที่กรอบ 29.50-30 บาท ใช้การหลุด 29 บาท ณ สิ้นวันเป็นจุด Stop Loss และเป้าหมายทำกำไร 31 และ 33 บาทซึ่งเป็นแนวต้านถัดไป...ที่สำคัญ อย่าลืมปัจจัยพื้นฐานที่ต้องติดตามกันด้วยนะครับ เพราะปัจจัยเหล่านั้นจะมีผลต่อราคาทันที และอาจทำให้ปัจจัยทางเทคนิคเสียทรงไปด้วย
Array
(
[cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV
[Secure-PHPSESSID] => udoo3cpb2s318ltjogkb0sthr5
)
Array
(
[sesCAFXXSLAT] => 1734887588
[CAFXSI18NX] => th
[_csrf] => 4649f1d90645d3eb089d33a23213c797
[CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fcpf-pick-27052563.html
)
Array
(
[content] => cpf-pick-27052563
)
Array ( )