จีนจะเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลก…เมื่อไร?

เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2562

กล่าวได้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นสิ่งที่สร้างความตกตะลึงแก่ญี่ปุ่นในปี 2010 เพราะจีนมีมูลค่าทางเศรษฐกิจในปีนั้นแซงหน้าญี่ปุ่น แต่การที่จีนทำให้ GDP ปรับขึ้นไม่ได้เริ่มขึ้นแค่ปีหรือสองปี แต่เริ่มตั้งแต่ปี 1978 ที่เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจ และหลังจากนั้นจีนเริ่มทีการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีละ 7-10% ซึ่งในปัจจุบันจีนยังมีการขยายตัวลดลง 6% ทั้งนี้สหรัฐฯมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาโตเฉลี่ยเพียง 1.9% เท่านั้น ส่วนจีนโตเฉลี่ยในช่วง 10 ปี อยู่ที่ 7.7% จึงเกิดคำถามจากนักเศรษฐศาสตร์ว่า จีนจะขึ้นมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกเมื่อไร หากยังโตเฉลี่ย 7.7% ในขณะที่สหรัฐฯโตเฉลี่ย 1.9%

ก่อนที่จะตอบว่า จีนจะขึ้นมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในปีไหน เราขอเปลี่ยนมาสู่ประเด็นที่จะทำให้จีนก้าวมาเป็นผู้นำกันก่อน โดยปัจจัยดังกล่าว เกิดจากจีนได้พัฒนานวัตกรรมจะกำลังจะขับเคลื่อนโลกอนาคต อย่าง เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) เพราะจีนรู้ว่ายุคนี้ เศรษฐกิจดิจิทัลจะสามารถทำให้จีนก้าวข้ามสหรัฐฯไปได้ โดยในปัจจุบันจีนขยายตัวใน 2 ส่วน 1.การบริโภค ซึ่ง McKinsey & Company ได้คาดการณ์ว่าในปี 2030 ภาคครัวเรือนของจีน 58% จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 18,000 หยวน/เดือน(2,500 ดอลลาร์/เดือน) ส่วนปัจจัยที่สองคือ การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) จะสร้างการขยายตัวแก่เศรษฐกิจจีนได้อีกมาก ซึ่งจะทำให้จีนมีแนวโน้มขยายตัวอยู่ในระดับ 6-7%

ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีนจะสูงกว่าสหรัฐฯในปี 2030 ส่วนในมุมผมมองว่าการที่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ถือเป็นกลยุทธ์ของสหรัฐฯซึ่งชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจอาจไม่ได้เห็นจีนก้าวข้ามสหรัฐฯในปี 2030 อาจต้องให้เวลานานกว่านั้น

ซึ่งแนวโน้มที่สหรัฐฯกำลังจะโดยแซงในอีกไม่ช้า มีแนวโน้มทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงทุกขณะ นั่นหมายความว่าสินทรัพย์ที่ซื้อขายด้วยค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสต้องใช้ค่าเงินดอลลาร์มากขึ้นในการซื้อขาย โดยสินทรัพย์ที่กล่าวถึงได้แก่ น้ำมัน ทองคำ สินค้าเกษตรต่างๆ

และปี 2018 จีนมีมูลค่าทางเศรษฐกิจตามหลังสหรัฐฯอยู่ 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเราต้องลุ้นในอีก 11 ปี จีนจะสร้างอภินิหารโดยมีขนาดเศรษฐกิจแซงสหรัฐฯได้หรือไม่ หากแซงได้มีโอกาสที่ราคาทองคำและน้ำมันจะพุ่งขึ้นในช่วงสั้นๆ