เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2565
ธปท.คาดศก.ไทยปีนี้โตแค่ 3% และเปิดเงื่อนไขการขึ้นดอกเบี้ย
โดยผู้ว่า ธปท. เล็งปรับประมาณการเศรษฐกิจรอบใหม่ ก.ย.นี้ มองอาจขายตัวแค่ 3% จากเดิมที่คาดขยายตัว 3.3%หลัง Q2/65 ขยายตัวต่ำกว่าคาด และปี 66 จะขยายตัวที่ 4% คาดภาคท่องเที่ยวช่วยหนุน ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป หวั่นกระทบกลุ่มเปราะบาง
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จะมีการทบทวนคาดการณ์เศรษฐกิจไทยรอบใหม่ในเดือน ก.ย.นี้ จากเดิมคาดเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว 3.3% หลังไตรมาส 2/65 ขยายตัวได้ 2.5% ต่ำกว่าที่คาด จึงคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจจะขยายตัวได้ 3% และปี 66 จะขยายตัวที่ 4%
ทั้งนี้ ต้องติดตามสถานการณ์อีกครั้ง เพราะมีหลายปัจจัย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจน โดย 7 เดือนแรก นักท่องเที่ยวเข้าไทย 3.2 ล้านคน จากที่คาดทั้งปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านคน และการบริโภคในประเทศกลับมาดีขึ้น และรายได้ที่ฟื้นตัวดีขึ้น
ขณะที่ความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว มองว่าผลกระทบต่อไทยไม่มาก เพราะไทยพึ่งพาจากอุปสงค์ในประเทศที่ยังมีต่อเนื่อง การท่องเที่ยวที่จะมาผลักดันเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า และรายได้ประชาชนดีขึ้น
ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงต่อไป จะปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว และยังมีความเปราะบางในบางกลุ่มที่มีรายได้ต่ำ ทำให้ธนาคารพาณิชย์ปรับดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ย จะพิจารณาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ การขยายตัวของเศรษฐกิจ ตัวเลขเงินเฟ้อ โครงสร้างเศรษฐกิจ และผู้ว่าธปท.มีความเป็นห่วงเรื่องหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากช่วง 10 ปีที่ผ่านมาหนี้ครัวเรือนเพิ่ม 30% และการแก้ไขปัญหาต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่าหนี้ครัวเรือนไม่ได้กระทบเสถียรภาพ และไม่ได้เกิดวิกฤติสถาบันการเงิน
Goldman Sachs คาด FED จะไม่ลดดอกเบี้ยอีก 2 ถึง 3 ปี หลังจากนี้
โดยนายยาน ฮัตซีอุส ดำรงตำแหน่ง head of the Global Investment Research Division and the firm's chief economist ของ Goldman Sachs คาดการณ์ว่า FED จะไม่ลดดอกเบี้ยในช่วง 2 ถึง 3 ปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯจะสูงถึงปี 2566
ทั้งนี้ JP Morgan คาดว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.75% ในเดือน ก.ย. หากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯขึ้นถึงปีหน้าจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำในระยะสั้นถึงกลาง
JP Morgan คาดยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรงในสิ้นปีนี้
JP Morgan คาดยุโรปเตรียมเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรงภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นและ ECB มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
โดยอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เพราะราคาก๊าซและไฟฟ้าที่สูงขึ้น ทำให้มาตรการกระตุ้นที่จะออกจากธนาคารกลางยุโรปมีความยากมากขึ้น
Array ( [Secure-PHPSESSID] => juolgk22hppdcqir93s4aa1352 [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732242052 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 1323b9a68a12ebfe436fa5a42044f2b2 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fcaf-update-25-08-65.html )
Array ( [content] => caf-update-25-08-65 )
Array ( )