เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2564
ราคาหุ้น TISCO หรือ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเกือบ 5% ในเช้าของวันที่ 14 ม.ค. 63 ก่อนถึงเวลาที่ TISCO จะประกาศผลการดำเนินงานปี 63 จากสัญญาณนี้ เราคาดการณ์ได้ว่า ผลการดำเนินงานและกำไรสุทธิของ TISCO มีแนวโน้มที่ดีในมุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ จึงเกิดแรงซื้อจำนวนมาก คำถามคือแนวโน้มกำไรสุทธิของ TISCO ดีจริงหรือไม่?
ย้อนไปในผลการดำเนินงานปี 2559-2562 แนวโน้มผลการดำเนินงานของ TISCO เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่องตามภาพประกอบด้านล่าง โดยรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการบริการสุทธิของ TISCO ปี 2559-2562 เติบโตโดยเฉลี่ย 5% ต่อปี จากการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อเพื่อธุรกิจและสินเชื่อเช่าซื้อรถ ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับรายได้ อย่างไรก็ตาม การเติบโตดังกล่าวเริ่มชะลอตัวหากเทียบกันระหว่างปี 2561 และ 2562 จากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และแนวโน้ม NPL ที่สูงขึ้น
สำหรับปี 63 ในรอบ 9 เดือนแรกมีรายได้จากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการบริการสุทธิจำนวน 13,602.56 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 62 จำนวน 13,658.87 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรก รายงานไว้ที่ 4,427.01 ล้านบาท ลดลง 18% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่รายงานไว้ 5,405.49 ล้านบาท โดยเป็นผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของคาดผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิด หรือหนี้สูญนั่นเอง
ส่วนผลการดำเนินงานและกำไรสุทธิแบบเต็มปี 63 ของ TISCO เราคาดว่าจะประกาศภายในสัปดาห์นี้ อ้างอิงจากวันที่ประกาศในปีที่แล้ว แน่นอนว่า TISCO ถือเป็นหุ้นกลุ่มแบงก์ที่มีธุรกิจให้บริการทางการเงินครบวงจร ถึงแม้ว่าจะความแตกต่างกับแบงก์อื่นๆด้านนโยบายในการบริหาร การตั้งสำรองหนี้สูญ แต่แนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจเดียวกันมักจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เราจึงใช้ผลการดำเนินงานของ TISCO เป็นตัวชีวัดผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ได้
ทั้งนี้ เราคาดว่าผลการดำเนินงานปี 63 ของ TISCO มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปี 62 โดยเป็นผลกระทบจากโควิด-19 ตามมาด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบาย และมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้จาก ธปท. นำไปสู่การตั้งสำรองเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับ NPL หรือผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิด นอกจากนี้ เมื่อวิเคราะห์จากกำไรสุทธิทั้งปี 62 ซึ่งรายงานไว้ที่ 7,270.23 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 63 จำนวน 4,427.01 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนต่างราว 2,843.22 ล้านบาท ในสถานการณ์แบบนี้ ก็ดูจะเป็นไปได้ยากพอสมควรที่ TISCO จะแตะเป้าหมายเพื่อทำให้กำไรสุทธิยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อ
ด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดการณ์ต่อไปอีกว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มแบงก์ปี 63 จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงด้วยผลกระทบดังกล่าว ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ตัวเลขที่เกิดขึ้นใน Q4/63 จะเป็นอย่างไร รายได้และกำไรสุทธิจะขยายตัวเมื่อเทียบกับ Q2-Q3 หรือไม่ ยังเป็นสิ่งที่เราต้องรอคำตอบกันตั้งแต่สัปดาห์นี้ จนถึงสัปดาห์หน้าที่แบงก์อื่นๆจะประกาศผลการดำเนินงาน (BBL ,KBANK, SCB, BAY, KTB เป็นต้น)
ส่วนมุมมองทางเทคนิค ต้องบอกว่าราคาหุ้น TISCO มีความน่าสนใจมากขึ้น หลังจากที่ทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 92 บาทและขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 95 บาทได้ พร้อมวอลุ่มซื้อขายจำนวนมาก ส่งสัญญาณขาขึ้นชัดเจน แนะนำว่าการอยู่ในฝั่งซื้อ หรือเปิดสถานะ Long ได้เปรียบแน่นอน แต่ยังมีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องติดตาม คือ
1) ผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร หากมีแนวโน้มลดลง YoY แต่ Q4 เติบโตเมื่อเทียบกับ Q2-Q3 ก็สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มดีขึ้น และ
2) ราคายืนเหนือแนวรับ 92 บาท สะท้อนความแข็งแกร่งทางเทคนิค
หากเข้าเงื่อนไข 2 ข้อนี้ เราคาดว่าสัญญาณขาขึ้นจะดำเนินต่อไปได้ดี เพราะมีทั้งปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคที่ดีซัพพอร์ตกัน ส่วนราคาที่น่าสนใจในการเปิดสถานะ Long กับ TISCO Futures คือ บริเวณ 93-94 บาท และวางจุด Stop Loss เมื่อหลุด 92 บาท ณ สิ้นวัน
หมายเหตุ: ราคาหุ้น ณ วันที่ 14 ม.ค. 63
Array ( [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV [Secure-PHPSESSID] => 4bbdvv1mua5ge4tct08ra2p5gb )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732324140 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => da809c3762847bfff07887a94fd87565 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-tisco-stocks-2021.html )
Array ( [content] => analyze-tisco-stocks-2021 )
Array ( )