เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2566
นักลงทุนหลายท่าน คงเผชิญความผันผวนในสัปดาห์ที่ 13-17 มี.ค. 66 เป็นอย่างมาก เพราะหลังเปิดสัปดาห์ได้เพียง 2 วัน SET Index ก็ปรับตัวลงมามากถึง 81 จุด แตะ 1,518 จุด ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จากความกังวลในภาคธนาคารของสหรัฐฯ อเมริกา หลัง Silivergate Bank, Silicon Valley Bank และ Signature Bank ถูกสั่งล้มละลาย และกังวลว่าธนาคารอื่น เสี่ยงที่จะล้มตามกัน จนทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการ Bank Term Funding Program คือการเสนอเงินกู้ยืม 1 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์, สถาบันรับฝากเงิน, เครดิตยูเนี่ยน และสถาบันการเงินประเภทอื่น ๆ โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่าง พันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ และธนาคารกลางสหรัฐฯ คุ้มครองเงินฝาก 100% เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาภาคธนาคารลุกลาม
แม้อดีตเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไข แต่อนาคตเราสามารถวางแผนได้ ดังนี้คำถามคือ สัปดาห์หน้าลงทุน Single Stock Futures (SSF) ตัวไหนดี
เริ่มจาก วิเคราะห์ปัจจัยที่กระทบการลงทุนในสัปดาห์หน้า
1.ยุบสภา
วันที่ 23 มี.ค. 66 จะครบกำหนดอายุสภาผู้แทนราษฎร โดยคาดประกาศยุบสภาก่อนครบกำหนด ในวันที่ 20 มี.ค. 66 และจัดการเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค. 66 เรามองว่าจะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นไทย
เพราะ?
ก่อนที่จะไปดูเหตุผล ผมขอยก นโยบายบางส่วนที่มีผลต่อรายได้ผู้บริโภคของแต่ละพรรคเพื่อให้นักลงทุนได้เห็นภาพมากขึ้น
นักลงทุนน่าจะเห็นแล้วว่าแต่ละพรรคก็มีนโยบายที่จะเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนให้สูงขึ้น สร้างโอกาสให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศสูงขึ้นในอนาคต ส่ง Sentiment เชิงบวกให้หุ้นไทย
คำถามคือ หุ้นกลุ่มไหนได้ประโยชน์
การที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายมากขึ้น ย่อมเป็นผลดีต่อหุ้น Domestic Play เพราะรายได้ขึ้นอยู่กับการบริโภคในประเทศ โดยหุ้นDomestic Play คือ
หุ้นค้าปลีก BJC, CPALL, CRC, COM7
หุ้นที่มีรายได้จากอาหารและเครื่องดื่ม CBG, CENTEL, ICHI, M, MINT, OSP, TTA
หุ้นสื่อสาร ADVANC, TRUE
2.ผลการประชุม FOMC
ธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED) มีการประกาศผลการประชุม FOMC ในคืนที่ 22 มี.ค. 66 เสี่ยงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จาก 4.75% เป็น 5.25% เพราะเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือน ก.พ. 66 อยู่ในระดับสูง แตะ 6% มากกว่าเป้าหมายเฉลี่ยที่ 2% และปัญหาภาคธนาคารจากการล้มละลายของ Silivergate Bank, Silicon Valley Bank และ Signature Bank ได้แก้ไขปัญหาโดย รัฐบาลสหรัฐฯ จัดตั้ง Bank Term Funding กับ การคุ้มครองเงินฝาก 100% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว
ส่งผลอย่างไร?
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ย่อม กระทบดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับปัญหาของภาคธนาคารสหรัฐฯ แม้จะได้รับการแก้ไข แต่คาดยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุนของภาคธุรกิจ ส่งภาคธุรกิจของสหรัฐฯ เสี่ยงชะลอตัว กระทบการจ้างงานลดลง กดการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เสี่ยงเข้าภาวะถดถอยมากขึ้น
กระทบหุ้นกลุ่มไหน?
นักลงทุนน่าจะเข้าใจแล้วว่าในสัปดาห์หน้า เสี่ยงเผชิญกับ Sentiment เชิงลบอย่างเศรษฐกิจสหรัฐฯ เสี่ยงเกิดภาวะถดถอยมากขึ้น ดังนั้นหุ้นที่ได้รับผลกระทบ เชิงลบอย่าง
หุ้นที่มีรายได้จากสหรัฐฯ EPG, DELTA, HANA. KCE, TU
นอกจากนี้
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลกเกิดภาวะถดถอย ย่อมกระทบการใช้พลังงานลดลง ส่งแนวโน้มราคา น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินปรับตัวลง
เป็นลบ
หุ้นกลุ่มน้ำมัน BCP, ESSO, OR, PTT, PTTEP
หุ้นถ่านหิน BANPU
เป็นบวก
หุ้นโรงไฟฟ้า BGRIM, GPSC, GULF
หุ้นค้าปลีก BJC, CPALL
หุ้นขนส่งสินค้า KEX
3.ค่า FT เดือน พ.ค. ถึง ส.ค. 66
สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะมีการพิจารณาการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (FT) สำหรับเดือน พ.ค. ถึง ส.ค. 66 ในวันที่ 22 มี.ค. 66 หลังมีการเปิดรับความคิดเห็น ตั้งแต่ 10 มี.ค. ถึง 20 มี.ค. 66 ทั้งหมด 3 แนวทาง ใช้อัตราเดียวกันทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ แต่ละแนวทางเก็บค่า FT ดังนี้
ค่า FT เพิ่มหรือลด ?
ค่า FT ฝั่งครัวเรือนมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น จาก 0.9343 บาทต่อหน่วยในงวดเดือน ม.ค. ถึง เม.ย. 66 เป็น 0.9827 ถึง 2.9360 บาทต่อหน่วยในงวดก่อน ขณะที่ฝั่งภาคธุรกิจ แม้จะมีความเสี่ยงที่ค่า FT จะปรับลงเหลือ 0.9827 บาทต่อหน่วย แต่ก็มีโอกาสปรับค่า FT ได้สูงสุด 2.9360 บาทต่อหน่วยในงวด เดือน พ.ค. ถึง ส.ค. 66 จาก 1.5492 บาทต่อหน่วยในงวดก่อน สร้างโอกาสให้รายได้หุ้นโรงไฟฟ้าอย่าง BGRIM, GPSC, GULF เพิ่มสูงขึ้น
สรุปหุ้นกลุ่มไหนน่าเก็งกำไรในสัปดาห์นี้ ?
เรามองว่า กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจลงทุนคือหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เพราะได้ประโยชน์ ทั้งต้นทุนที่ลดลงและรายได้ที่มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือน พ.ค. ถึง ส.ค. 66
หุ้นที่เราสนใจคือ BGRIM โดยกลยุทธ์การลงทุนในฝั่งซื้อ BGRIMM23 ที่ราคา 38.25 บาท เป้าหมาย 42.25-43.50 บาท จุดตัดใจสิ้นวัน 36.50 บาท เริ่มต้นการลงทุนใน SSF ใช้เงิน 3,360 บาท หรือ Block Trade เริ่มต้น 100 สัญญา วางหลักประกันเพียง 336,000 บาท และมีอัตราทดที่ 11.38 เท่า
Array ( [Secure-PHPSESSID] => f7mvgqft8hmk4dcj4tfc7d3g7m [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732206369 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 149b67472bd10791c6577ebbf70d8ac0 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-stocknextweek-stock-2023.html )
Array ( [content] => analyze-stocknextweek-stock-2023 )
Array ( )