PTG ร่วงหนัก สวนทางกับราคาน้ำมันดิบ...เปิด Short ทันหรือไม่?

เผยแพร่เมื่อ วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2564

ราคาหุ้นของ PTG หรือ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี ปรับตัวลดลงจาก 17.20 บาทเมื่อสัปดาห์ก่อน สู่ระดับ 16.10 บาท (ราคาปิดของวันที่ 28 ก.ย. 64) สวนทางกับทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็น WTI หรือ BRENT สร้างความแปลกใจให้กับนักลงทุนจนเกิดเป็นคำถามตามมาว่า ทำไมราคาหุ้น PTG ถึงเคลื่อนไหวสวนทางกับราคาน้ำมันดิบ? เรามีคำตอบพร้อมคำแนะนำการเข้าสถานะ Short ใน Single Stock Futures ของ PTG ว่าควรวางแผนอย่างไร

ปัจจัยที่ทำให้เกิด Sentiment ลบต่อราคาหุ้นของ PTG คือ การลดลงของค่าการตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อธุรกิจปั๊มน้ำมัน เพราะค่าการตลาด เป็นส่วนต่างระหว่างราคาขายน้ำมัน (ราคาหน้าปั๊ม) และต้นทุนขายน้ำมัน โดยเป็นผลจากการที่ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มขาขึ้นจากระดับ 48-50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ ต้นปี สู่ระดับเหนือ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปัจจุบัน ส่งผลต่อธุรกิจปั๊มน้ำมัน ในแง่ของการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขาย ทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาขายกับต้นทุนขายลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิของธุรกิจปั๊มน้ำมันมีโอกาสลดลงนั่นเอง

โดยปกติ ค่าการตลาดของธุรกิจปั๊มน้ำมัน มักจะลดลงในเวลาที่ราคาน้ำมันดิบเป็นขาขึ้น ในทางกลับกัน ค่าการตลาดมักจะเพิ่มขึ้น ในเวลาที่ราคาน้ำมันดิบเป็นขาลง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการกำหนดราคาขาย และการปรับราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนที่ปั๊มรับน้ำมันมาขายด้วย

นอกจากนี้ ปริมาณขายน้ำมันอาจได้รับผลกระทบเชิงลบจาก 2 ประเด็น ได้แก่ 1) ราคาขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 30 บาท/ลิตร และ 2) การระบาดของโควิด-19 ช่วง Q3/64 ที่ทำให้มีการยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดในหลายจังหวัด ทั้งการควบคุมการเดินทางออกนอกพื้นที่ การใช้นโยบาย Work from Home แทนการทำงานที่ออฟฟิศ ปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันมีโอกาสลดลง และอาจกระทบต่อปริมาณขายที่ลดลงในลำดับต่อมา

สรุป ด้านราคาขายที่เพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นตามมา ทำให้เกิดการลดลงของค่าการตลาด ที่มีความจำเป็นต่อธุรกิจปั๊มน้ำมันในแง่ของกำไรสุทธิ ส่วนปริมาณขาย ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ใน Q3/64 ที่อาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ปริมาณขายมีโอกาสลดลง ทำให้ผลการดำเนินงาน Q3/64 ของ PTG มีแนวโน้มลดลงนั่นเอง

อีกประเด็นที่สำคัญไม่แพ้เรื่องของค่าการตลาด และสถานการณ์โควิด-19 ก็คือ การเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ของภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นอีกสาเหตุที่สร้างความกังวลต่อการดำเนินธุรกิจของ PTG โดยเฉพาะปั๊มน้ำมันที่อยู่ในพื้นที่ของอุทกภัย หรือพื้นที่เสี่ยงภัย จะส่งผลให้ปริมาณขายน้ำมันลดลง กระทบต่อรายได้และกำไรสุทธิในลำดับถัดมา

ทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด Sentiment ลบต่อราคาหุ้นของ PTG และทำให้นักลงทุนเทขายออกมาจนราคาหุ้นลดลง 6% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยลงมาเคลื่อนไหวในกรอบ 16 – 16.50 บาท มีแนวโน้มเป็นขาลงระยะสั้น คำถามคือ จากจุดนี้สามารถเปิด Short ได้หรือไม่?

สำหรับการเข้า Short ใน Single Stock Futures ของ PTG เราแนะนำให้จับตา 2 บริเวณ ได้แก่ 1) การขึ้นมาทดสอบ 17 บาทแล้วอ่อนตัวลง โดยมีจุด Stop Loss 17.40 บาท และ 2) การปรับตัวลงหลุด 15.30 บาท ณ สิ้นวัน สามารถเปิด Short ได้ โดยมีจุด Stop Loss ที่ 16 บาท