บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด

NER กับประเด็นบวกรอบใหม่

NER กับประเด็นบวกรอบใหม่

เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564


บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ซึ่งปัจจุบันทีสินค้าที่บริษัทผลิตและจำหน่ายแบ่งเป็น 3 สินค้า ได้แก่

1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางแผ่นรมควัน (Ribbed Smoked Sheet : RSS) เป็นวัตถุดิบในการผลิต เช่น ยางล้อรถยนต์ สายพาน ท่อน้ำ รองเท้า อะไหล่รถยนต์

2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางแท่ง (Standard Thai Rubber 20: STR20) เป็นวัตถุดิบในการผลิต อย่าง ล้อยางเครื่องบิน ล้อยางรถยนต์ ล้อยางเรเดียลทุกชนิด

3) กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางผสม (Mixtures Rubber) คือผลิตภัณฑ์ยางพาราขั้นต้นกึ่งธรรมชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการเติมยางสังเคราะห์ และ/หรือ สารเคมีเข้าไปในยางพาราธรรมชาติ ตามคุณสมบัติหรือลักษณะพิเศษเฉพาะตัวตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า

โดยรายได้หลักของ NER ในปี 2563 ได้แก่

ผลิตภัณฑ์ยางแท่งที่สร้างรายได้ 6,605.33 ล้านบาท ตามมาห่างๆกับยางผสม 4,008.37 ล้านบาท ส่วนอันดับที่ 3 สร้างรายได้ 3,273.58 ล้านบาท ขณะที่สินค้าสร้างรายได้อันดับ 4 คือ ยางผสมอัดแท่งทำรายได้ 2,462.50 ล้านบาท และสุดท้ายรายได้อื่นๆ 14.71 ล้านบาท

เท่ากับว่ารายได้หลักของ NER เกี่ยวกับราคายางพาราและราคาน้ำมัน เนื่องจากน้ำมันเป็นวัตถุดิบที่ใช้ผลิตยางสังเคราะห์ที่สามารถนำมาใช้แทนยางพาราได้  ทำให้เราต้องวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้ก่อนที่จะลงทุนใน NER เพราะหากราคายางพาราเพิ่มสูงขึ้น NER จะได้ประโยชน์ตามไปด้วย แต่หากราคายางพาราลดลงรายได้ของ NER มีความเสี่ยงที่จะลดลง

แนวโน้มราคายางพาราในระยะสั้น มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการยาง หลังจากยุโรปและเอเชียกลางเกิดการระบาดโควิด-19 ส่งผลให้องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง อาจจะพุ่งแตะระดับมากกว่า 2.2 ล้านรายภายในเดือนมี.ค.ปีหน้า และการระบาดของยุโรป WHO มองว่าเกิดจากไวรัสโควิด-19 สายพันธ์เดลต้าที่มีอัตราการแพร่ระบาดที่เร็วกว่าสายพันธ์อื่นๆ ,ประชาชนในภูมิภาคไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ,หลายประเทศยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม ,รวมถึงสภาพอากาศในฤดูหนาวจะเป็นตัวกระตุ้นการระบาดในยุโรป กดดันให้ประชาชนรวมตัวกันภายในบ้านที่มีการระบายอากาศน้อย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ไวรัสแพร่ระบาดได้ง่าย

ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันมีโอกาสเป็นขาขึ้น หลังจากโกลด์แมน แซคส์แสดงความเห็นว่า น้ำมันดิบที่ระบายออกจากหลายประเทศ นำโดยสหรัฐฯ อาจจะทำให้อุปทานน้ำมันโลก เพิ่มขึ้นราว 70-80 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การระบายน้ำมันจะมีปริมาณมากกว่า 100 ล้านบาร์เรล  และยังคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจระงับแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในเดือน ธ.ค. ในการประชุมวันที่ 2 ธ.ค. 64 ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันมากกว่าความต้องการผลิตน้ำมัน เป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

จากปัจจัยที่แนวโน้มราคายางพาราและราคาน้ำมันเป็นขาขึ้น ส่งผลให้ NER จะได้ประโยชน์ตามไปด้วย จึงเป็นเหตุผลที่เราแนะนำซื้อ NER ประเทศกับปัจจัยทางเทคนิคมีจุดเข้าที่ 6.90-7.00 บาท เป้าหมาย 7.50-8.00 บาท จุด Stop 6.80 บาท

เปิดบัญชี TFEX
รับสิทธิพิเศษทันที !!
Array
(
    [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV
    [Secure-PHPSESSID] => emltme0qlb121a7i00ppnjssdb
)
		
Array
(
    [sesCAFXXSLAT] => 1732299482
    [CAFXSI18NX] => th
    [_csrf] => 85178d635fa28fbf71ed0412b38db3ef
    [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-ner-2-stock-2021.html
)
		
Array
(
    [content] => analyze-ner-2-stock-2021
)
		
Array
(
)