เผยแพร่เมื่อ วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2564
นับเป็นข่าวดีของปีนี้เลยก็ว่าได้ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศให้มีการผ่อนคลายมาตรการ LTV เป็นการชั่วคราว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยธุรกิจอสังหาฯได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ในแง่ของกำลังซื้อที่ลดลง รวมไปถึงมาตรการ LTV ที่ออกมาเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านโครงสร้างหนี้ของไทย ก็เป็นแรงกดดันต่อความต้องการซื้ออสังหาฯนับตั้งแต่ปี 62 อยู่แล้ว ดังที่สะท้อนไปยังผลการดำเนินงานกของกลุ่มอสังหาฯที่ลดลงนั่นเอง
ทั้งนี้ รายละเอียดของการผ่อนคลายมาตรการ LTV ให้ความสำคัญไปที่การกู้สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยตั้งแต่สัญญาที่ 2 ขึ้นไป โดยที่ไม่ต้องวางดาวน์ขั้นต่ำ และไม่ได้มีข้อจำกัดในเรื่องราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งการผ่อนคลายมาตรการ LTV ในลักษณะนี้ ทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีโอกาสฟื้นตัวกลับมาได้ อย่างไรก็ตาม การผ่อนคลายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 ต.ค. 64 – 31 ธ.ค. 65 จึงทำให้เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อหุ้น หรือเก็งกำไรใน Single Stock Futures ของกลุ่มอสังหาฯ หากเป็นช่วงใกล้ประกาศผลการดำเนินงานแต่ละไตรมาสของปี 65
โดย ธปท. ให้เหตุผลในการผ่อนคลายมาตรการ LTV ไว้ว่า 1) เพื่อดึงเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยคิดเป็น 9.8% ของ GDP และการจ้างงานราว 2.8 ล้านคน และ 2) ช่วยเหลือประชาชนที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม ตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์โควิด-19 เช่น การมีที่พักสำหรับ Work from home หรือการแยกพักอาศัยจากครอบครัว ในกรณีที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ธปท. มีการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดอสังหาฯ โดยกำหนดให้สถาบันการเงินเพิ่มความรัดกุมในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความสามารถในการชำระหนี้ต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้หนี้ครัวเรือนต่อ GDP เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่หนี้ครัวเรือนปัจจุบันอยู่ที่ระดับเหนือ 90% ต่อ GDP ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเพื่อการบริโภค เช่น หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ดังนั้น ธปท. จึงมีความกังวลต่อหนี้ครัวเรือนที่จะเกิดจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV ไม่มากเท่ากับความกังวลที่มีต่อสินเชื่อเพื่อการบริโภคดังกล่าว
โดยสรุป การผ่อนคลายมาตรการ LTV มุ่งเน้นไปที่การกำหนดเกณฑ์การวางดาวน์ขั้นต่ำสำหรับที่อยู่อาศัยสัญญาที่ 2 ขึ้นไป ในทุกระดับราคาที่อยู่อาศัย โดยจะช่วยเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาฯ และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัท และการลงทุนในหุ้นหรือ Single Stock Futures กลุ่มอสังหาฯ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย มีโอกาสฟื้นตัวได้หลังโควิด-19
สำหรับ Single Stock Futures ที่เป็น Top Pick ของเรา แนะนำให้จับตาการเคลื่อนไหวของ PSH หรือ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง ซึ่งมี Market Cap. ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของกลุ่มอสังหาฯที่อยู่อาศัย (อันดับ 1 และ 2 ได้แก่ LH และ SPALI ตามลำดับ) และหากนับจากราคาหุ้น ณ ต้นปี ผลตอบแทนยัง Underperform หรือปรับตัวขึ้นไม่มากไม่ว่าจะเทียบกับดัชนี SET หรือดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จึงมีความน่าสนใจหากต้องการเปิดสถานะ Long
ด้านกลยุทธ์การเข้าสถานะ Long เราแนะนำให้เปิดสถานะบริเวณ 13.50-13.60 บาท โดยมีจุด Stop Loss ที่ 13.20 บาท และเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 14.50-14.60 บาท
หมายเหตุ: ราคาหุ้น ณ วันที่ 27 ต.ค. 64
Array ( [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV [Secure-PHPSESSID] => bmiku9293sn5vekc45frmma10i )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732308617 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 9bfdd26cf2ca8b7c4abf71e32ed9cdd3 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-ltv-stock-2021.html )
Array ( [content] => analyze-ltv-stock-2021 )
Array ( )