บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด

KEX ตอนนี้น่าซื้อหรือราคาอาจถูกกว่านี้

KEX ตอนนี้น่าซื้อหรือราคาอาจถูกกว่านี้

เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564


ในสัปดาห์นี้หุ้น KEX เป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก หลังจากพี่ KEX เคลื่อนตัวแนวดิ่ง อย่างกับนักลงทุนเป็นเซอร์ ไอแซก นิวตัน มองแอปเปิ้ลตกจากต้นไม้ คล้ายกับ KEX ที่วันจันทร์(1 พ.ย.) ราคาอยู่ที่ 37.25 บาท แต่วันอังคาร(2 พ.ย.)ราคาดิ่งไปแตะ 33.50 บาท เท่ากับว่าราคาของ KEX ลงมามากกว่า 10% กลับมาที่คำถามสำคัญอย่าง ทำไม KEX ถึงลงแรง

เราจึงเข้าใจพื้นฐานของ KEX กันก่อน ถึงจะรู้ว่า KEX ลงได้อย่างไร?

โดย KEX ทำธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนให้บริการที่หลากหลายแก่ภาคธุรกิจต่างๆ ได้แก่ 

1. C2C: บริการขนส่งพัสดุแบบด่วนและเก็บเงินปลายทาง สำหรับผู้ค้าปลีกและบุคคลทั่วไป 

2.B2C: ให้บริการแก่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและโฮมชอปปิ้งเกือบทุกแห่งที่ดำเนินการในประเทศ

3.B2B: ให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจผู้ที่ต้องการจัดส่งพัสดุไปยังสำนักงาน สาขา และสถานที่ทำธุรกิจอื่นๆ 

      

โครงสร้างรายได้จำแนกตามกลุ่มธุรกิจ

 

 

 

 

หน่วย:ล้านบาท

2561

%

2562

%

2563

%

รายได้จากการขายและจัดส่งพัสดุ

13,565 

100%

19,607 

99%

18,891 

100%

  -C2C

  7,631 

56%

10,232 

52%

10,011 

53%

  -B2C

  5,507 

41%

  8,949 

45%

  8,528 

45%

  -B2B

      428 

3%

      426 

2%

      352 

2%

รายได้ค่าโฆษณา

-

      175 

1%

        26 

0%

รายได้รวมจากการขายและบริการ

13,565 

 

19,782 

 

18,917 

 

 

รายได้ของ KEX จากค่าโฆษณาและการจัดส่งพัสดุ ส่วนต้นทุนของการจัดส่งพัสดุ คือ ค่าเชื่อเพลิงและค่าแรงงาน มาถึงจุดนี้เราเริ่มมองแล้วว่า ทำไม KEX ถึงลงแรง เนื่องจากปี 2564 การระบาดโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มลดลง หลังจากได้เกิดวัคซีนต้านโควิด-19 หลายยี่ห้อ ส่งผลบวกต่อกิจกรรมของภาคธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ความต้องการน้ำมันโลกจึงพุ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยราคาน้ำมันตั้งแต่ต้นปี ถึงปัจจุบัน( 3 พ.ย. ) พุ่งขึ้นมากกว่า 57% ทำให้ต้นทุนของ KEX ที่เป็นค่าเชื่อเพลิงพุ่งขึ้น แม้ว่า KEX จะจัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและการบริหารจัดการยานพาหนะเพื่อควบคุมต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ดี แต่ยังไม่สามารถปิดความเสี่ยงของน้ำมันได้ทั้งหมด

กลับมาที่ปัจจุบันต้นทุน KEX มีแนวโน้มอย่างไร?

หากมองปัจจัยที่เป็นต้นทุนของ KEX คือ น้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นความเสี่ยงต่อ KEX อยู่ดี เนื่องจากชาติที่ครองน้ำมันได้จับกลุ่มกันรวมเป็น Opec+ ได้แก่กลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) กับชาติผู้ผลิตน้ำมันสำคัญ ๆ นอกกลุ่ม นำโดยรัสเซีย โดยกลุ่มดังกล่าวยังคงการผลิตน้ำมันใช้เท่าเดิม แต่สวนทางกับความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการเปิดประเทศต่างๆ เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การขนส่งทางบกและทางอากาศเพิ่มขึ้น และการคงการผลิตน้ำมันระดับเดิม แต่ความต้องการน้ำมันกลับเพิ่มสูงขึ้น ส่งให้ราคาน้ำมันในปลายปีนี้ถึงปีหน้ามีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนของ KEX อย่างแน่นอน  หากถามเราว่า จะถึงเวลาซื้อ KEX ตอนไหน เราจะตอบว่า เมื่อ KEX สามารถแก้ไขต้นทุนเรื่องค่าเชื้อเพลิงได้

สรุป KEX ในตอนนี้เรายังไม่แนะนำให้เข้าซื้อเนื่องจาก ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากค่าเชื้อเพลิง เป็นประเด็นสำคัญที่กดดันผลกำไรของ KEX ทำให้ราคามีความเสี่ยงที่จะถูกกว่านี้

เปิดบัญชี TFEX
รับสิทธิพิเศษทันที !!

บทความที่เกี่ยวข้อง

Array
(
    [Secure-PHPSESSID] => 3sgkals9bul086s37tcfo9kjpq
    [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV
)
		
Array
(
    [sesCAFXXSLAT] => 1732562594
    [CAFXSI18NX] => th
    [_csrf] => bc0705c92a53096ab0c8a57ac8a40be3
    [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-kex-stock-2021.html
)
		
Array
(
    [content] => analyze-kex-stock-2021
)
		
Array
(
)