เผยแพร่เมื่อ วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564
GUNKUL หรือ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการปรับตัวขึ้นจากโซน 2.80 บาท สู่ระดับ 3.14 บาท หรือขึ้นมาราว 12% พร้อมปริมาณการซื้อขายจำนวนมาก ซึ่งนอกจากปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นใน tf day ณ วันที่ 10 มี.ค. 64 ซึ่งเป็นปริมาณเยอะที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 แล้ว ใน tf week ปริมาณซื้อขายยังเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าอีกด้วย
เข้าสู่สัปดาห์นี้ ราคาหุ้น GUNKUL ยังคงร้อนแรงจนทะลุแนวต้าน 3.28 บาท ก่อนจะพุ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 3.60 และ 4 บาท เป็นการ Test แนวต้านสำคัญในรอบเกือบ 4 ปี ซึ่ง 2 สัปดาห์นี้ ราคาหุ้น GUNKUL ขึ้นมาแล้วกว่า 40% คำถามคือ มีปัจจัยอะไรซัพพอร์ตการขึ้นมาของ GUNKUL ในรอบนี้
ประเด็นสำคัญที่เข้ามาซัพพอร์ตราคาหุ้นของ GUNKUL คือ บริษัทมีความสนใจในธุรกิจกัญชง ในส่วนของการปลูกและการสกัด เพราะ มีพื้นที่ภายในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยจำนวน 2-3 โครงการ ขนาดรวม 5,000 ไร่ โดยบริษัทมองว่ามีความเหมาะสมในการปลูกทั้งขนาดพื้นที่และแหล่งน้ำ ซึ่ง GUNKUL กำลังเดินเรื่องขอใบอนุญาตในการเพาะปลูก คาดว่าเฟสแรกจะใช้พื้นที่ 150 ไร่ จากที่วางแผนไว้ทั้งหมดประมาณ 2,000 ไร่ นอกจากนี้ GUNKUL ยังมีแผนสร้างโรงงานสกัดกัญชง เพื่อนำ CBD ไปใช้ประโยชน์อื่น
จะเห็นว่าช่วงหลังมานี้ หลายบริษัทวางแผนจะเข้าร่วมธุรกิจกัญชงเยอะมาก ทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ แม้แต่ GUNKUL เองก็ให้ความสนใจในจุดนี้ มุมมองของเราที่มีต่อเรื่องนี้ ก็จะคล้ายกับบริษัทอื่นที่ปูแผนเข้าสู่ธุรกิจกัญชง โดยเฉพาะ STA ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตเช่นเดียวกับ GUNKUL ดังนั้น ความเสี่ยงต่อราคาหุ้นของทั้ง 2 บริษัทอันดับแรกก็คือ การขอใบอนุญาตทำธุรกิจกัญชงนั่นเอง
ในกรณีที่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ เราคาดว่าจะส่งผลให้เกิด Sentiment บวกต่อราคาหุ้นอีกรอบนึง หลังจากที่ขึ้นมาแล้วตอนประกาศแผน ซึ่งก็ต้องลุ้นกับผลการดำเนินงานต่อไปว่าธุรกิจกัญชงจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทแค่ไหน ในทางกลับกัน ถ้าความชัดเจนในการขอใบอนุญาตล่าช้าออกไป หรืออย่างร้ายแรงที่สุดคือไม่ได้รับการอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจกัญชง แบบนี้ส่งผลลบต่อราคาหุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น นักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน Single Stock Futures ของ GUNKUL จึงต้องมีแผนรับมือกับทุกเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดไว้ด้วย
ส่วนธุรกิจการผลิตไฟฟ้าของ GUNKUL ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 624.2 MW และมีแผนที่จะพัฒนาขึ้นไปสู่ระดับ 1,000 MW โดยหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญในปีที่ผ่านมา คือ การขายโรงไฟฟ้า 2 แห่งที่ญี่ปุ่น เพื่อนำมาลงทุนโรงไฟฟ้าในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีโอกาสขยายตัวได้ดีในอนาคต และมีแนวโน้มที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมต่างๆเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิต
สรุปในมุมมองของเรา GUNKUL เป็นบริษัทที่ยังมุ่งเน้นการทำธุรกิจโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตไว้ที่ 1,000 MW ภายในปี 65-66 บวกกับเป้าหมายในการพาตัวบริษัทเข้าสู่ธุรกิจใหม่อย่างกัญชง เพราะมีขนาดพื้นที่เพียงพอต่อการเริ่มธุรกิจปลูกกัญชง หากได้รับใบอนุญาต เราคาดว่า GUNKUL จะเริ่มแผนดังกล่าวทันที และจะรับรู้รายได้ภายใน Q4/64 นี้
เมื่อวิเคราะห์ทางเทคนิค พบว่าราคาหุ้น GUNKUL เป็นขาขึ้น มีกรอบแนวรับ-แนวต้านกว้างๆอยู่ที่ 3.28 – 4 บาท และแนวรับ-ต้านสำคัญระหว่างทางบริเวณ 3.60 บาทซึ่งต้องจับตาเป็นพิเศษ หากต่ำกว่าจุดนี้ เราแนะนำให้เปิดสถานะ Long บริเวณ 3.30-3.34 บาท มีจุด Stop Loss อยู่ที่ 3.28 บาท
อีกกรณีนึงคือการที่ราคาหุ้น GUNKUL ยืนเหนือ 3.60 บาท สามารถเปิดสถานะ Long บริเวณ 3.68-3.70 บาท ใช้ 3.60 บาทเป็นจุด Stop Loss โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 4 บาท แต่กลยุทธ์นี้เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง
หมายเหตุ: ราคาหุ้น ณ วันที่ 16 มี.ค. 64
Array ( [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV [Secure-PHPSESSID] => 6to9stmp9t8sp32thjtamq3j0j )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732340404 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 933825d4db4af8f39a8d7462b716a60f [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-gunkul-stock-2021.html )
Array ( [content] => analyze-gunkul-stock-2021 )
Array ( )