สถิติสงครามกับราคาทองคำโลก

---

เผยแพร่เมื่อ วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566

---

1.สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส หากวิเคราะห์ในเชิงสถิติตั้งแต่มี 2000 ถึง 2023 มีสงครามที่มีความเสี่ยงขยายตัว 3 ครั้ง เป็นประเด็นระหว่างรัสเซียกับยูเครน 2 ครั้ง และประเด็นระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน ทั้ง 3 ประเด็นที่มาที่ไปเป็นอย่างไรรวมถึงราคาทองคำโลกขึ้นได้กี่เปอร์เซ็นต์

โดยทั้งแรกเป็นวันที่ 18 ก.พ.  2014 ชนวนความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก ประเด็น”ไครเมีย” 

ครั้งที่ 2 ประเด็นระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ มีคำสั่งให้สังหารพลตรี สุเลมานี ของอิหร่านที่สหรัฐฯเชื่อว่า อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการทางทหารของอิหร่านในตะวันออกกลาง และเป็นผู้ก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังสังหารทหารสหรัฐฯ หลายร้อยคน 

ครั้งที่ 3 รัสเซียเปิดฉากส่งกำลังทหารกว่า 2 แสนนายบุกข้ามชายแดนเข้าสู่ยูเครน



สรุปข้อมูลจากทางสถิติราคาทองคำจะปรับขึ้นทุกครั้งในช่วงภาวะสงครามอาจขยายวงและทองคำจะลงจากสงครามไม่ขยายวง เพราะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ซึ่งการขึ้นเฉลี่ยจะเป็นดังตารางดังนี้



อีกหนึ่งประเด็นของสงครามที่เกี่ยวกับราคาทองคำ คือ เมื่อสงครามไม่มีความเสี่ยงขยายวงราคาทองคำจะปรับลงแรงขนาดไหนไปดูกันที่ตารางข้างล่างนี้ได้เลย (นับจาก 7 วัน ที่สงครามไม่มีความเสี่ยงขยาย)
 

โดยทางสถิติราคาทองคำจะปรับลงเฉลี่ยดังนี้



สรุปมุมมองสถิติในตั้งแต่ปี 2000 – 2023 การเกิดสงครามจะทำให้ราคาทองคำขึ้นเฉลี่ย โดย Gold spot +5.4% , Gold Futures +3.9% และทองแท่ง +3.5% ทั้งนี้หากสงครามมีแนวโน้มจะไม่ขยายวงราคาทองคำจะลงเฉลี่ย ซึ่ง Gold spot -4.6% , Gold Futures -2.7% และทองแท่ง -2.3% ทั้งนี้นักลงทุนต้องจับตาว่า สัญญาณสงครามขยายวงรอบนี้คือ การอิสราเอลส่งทหารภาคพื้นดินเข้าปาเลสไตน์จะสร้างความเสียแก่ทั้ง 2 ประเทศ และเรื่องที่จะทำให้สงครามขยายตัวหลังจากที่อิสราเอลส่งทหารภาคพื้นดินเข้าปาเลสไตน์ มีความเสี่ยงที่ชาติมุสลิมอาจเข้าร่วมสงคราม เรียกได้ว่า “สงครามโลกครั้งที่ 3” ในกรณีสงครามไม่ขยายวง จากอิสราเอลส่งทหารภาคพื้นดินเข้าปาเลสไตน์ แต่ชาติมุสลิมไม่มีการช่วยเหลือนั่นเอง