เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2566
หลังมีการเปิดเผยจากกระทรวงเกษตร ป่า ไม้ และประมงของญี่ปุ่น ว่ามีการกำจัดสัตว์ปีกในฟาร์ม ไปแล้วมากกว่า 10 ล้านตัว หลังไข้หวัดนกระบาดหนักในประเทศญี่ปุ่น โดยพบการติดเชื้อไข้หวัดนก ในตอนนี้มีจำนวนทั้งหมด 57 ครั้ง ใน 23 จังหวัด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สร้างโอกาสให้ญี่ปุ่นนำเข้าเนื้อไก่จากไทยมากขึ้น ส่งผลให้มีแรงเก็งกำไรในหุ้นส่งออกเนื้อไก่ไปยังญี่ปุ่น อย่าง CPF และ GFPT โดยใน วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบธุรกิจของ CPF และ GFPT เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจมากขึ้น
เมื่อทำการเปรียบเทียบธุรกิจ CPF และ GFPT จะเห็นได้ ว่าปัจจุบัน GFPT มีความน่าสนใจกว่า CPF จาก
1.เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนรายได้ในประเทศและต่างประเทศ จะเห็นได้ว่า CPF มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ มากกว่า GFPT โดย CPF มีรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 69% ของรายได้รวม มากกว่า GFPT ที่มีอยู่ 22.42% ของรายได้รวม ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีผลต่อ CPF มากกว่า GFPT ซึ่งปัจจุบันค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น จากการที่นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อ BOND และหุ้นในดัชนี SET รวมถึงปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงขึ้น ทั้งนี้ค่าเงินบาทที่แข็งส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันในต่างประเทศลดลงเพราะราคาสินค้าในสกุลเงินต่างประเทศจะสูงขึ้น และรับรู้รายได้เป็นเงินบาทได้น้อยลง เป็นลบต่อ CPF มากกว่า GFPT จากมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศสูง
2.ปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศในช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย และประเทศจีนประกาศเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าไทยมากขึ้น หนุนให้เกิดการบริโภคในประเทศไทยสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นบวกกับ GFPT มากกว่า CPF เพราะ GFPT มีสัดส่วนรายได้ในประเทศสูงถึง 77.58% แต่ CPF มีเพียง 31%
3.แนวโน้มต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ในปี 2566 ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยมีสาเหตุมาจาก 1.ประเทศจีนผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ของโลกกลับมารับซื้อธัญพืชจากทั่วโลก 2.ปัญหาภัยแล้งและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ส่งผลให้ปริมาณการผลิตธัญพืชในประเทศผู้ปลูกรายใหญ่ลดลง ทั้งข้าวโพดและถัวเหลือง 3.ปัญหารัสเซีย-ยูเครนยังคงอยู่ โดยทั้ง 2 ส่งออกข้าวสาลี รวมกันมีสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 3 ของโลก และส่งออกข้าวโพด รวมกันมากถึง 1 ใน 6 ของโลก ส่งผลให้แนวโน้มต้นทุนในการผลิตอาหารสัตว์เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ CPF จะได้รับผลกระทบมากกว่า GFPT เพราะมีสัดส่วนรายได้ในธุรกิจอาหารสัตว์มากกว่า
4.กำไรต่อหุ้นในช่วง 9 เดือนแรก อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดย CPF มีกำไรมากกว่าเล็กน้อย แต่ GFPT มีสัดส่วนหนี้ต่อทุนต่ำกว่า
แม้ว่าปัจจุบัน CPF ประกาศซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 2565 ถึง 18 มิ.ย. 2566 โดยสามารถซื้อหุ้นคืนได้สูงสุด 200,000,000 หุ้น และได้ซื้อหุ้นคืนไปเพียง 39,780,000 หุ้น ยังสามารถซื้อหุ้นคืนได้อีกสูงสุด 160,220,000 หุ้น แต่ด้วยเหตุผล 4 ข้อข้างต้น ทำให้เรายังสนใจ GFPT มากกว่า
ทั้งนี้มีกลยุทธ์การลงทุน GFPTH23 ในฝั่งซื้อ เมื่อทะลุ 13.80 บาท เป้าหมายที่ 14.60 บาท จุดตัดใจสิ้นวัน 12.90 บาท เริ่มต้นการลงทุนใช้เงินเพียง 1,225 บาท หรือ Block Trade เริ่มต้น 100 สัญญา
Array ( [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV [Secure-PHPSESSID] => k256uc76uahu9kaulbgbv2dtf9 )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1734893646 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 1d569e56de7251e71e1b1382e7d58e4e [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-cpf-gfpt-stock-2023.html )
Array ( [content] => analyze-cpf-gfpt-stock-2023 )
Array ( )