CHG แนะทยอยสะสม Long ลุ้นผลการดำเนินงาน Q3/64

เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ฤดูประกาศผลการดำเนินงาน Q3/64 เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ หลังจากหุ้นกลุ่มธนาคารเริ่มประกาศผลการดำเนินงานออกมา และคาดว่าจะทยอยประกาศออกมามากขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยใน Q3/64 เราแนะนำให้จับตาผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของปี และมีปัจจัยบวกเสริมเข้ามาจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้รายได้และกำไรสุทธิมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ หุ้นที่เราให้ความสนใจมากที่สุด ก็คือ CHG หรือ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ เนื่องจากผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 64 ที่โดดเด่น และยังพบสัญญาณการซื้อสะสมหุ้น ในช่วงราคา 3.50-3.70 บาท แม้ในวันที่ดัชนี SET ปรับตัวลงมา ราคาหุ้น CHG ก็มีแรงซื้อพยุงไว้ที่ 3.70 บาท ซึ่งเรามองว่ามีความน่าสนใจมากเมื่อวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยทางเทคนิคดังกล่าว

หากวิเคราะห์ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 64 พบว่า CHG มีรายได้จากการให้บริการจำนวน 3,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2,462 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 63 โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องมาจากโควิด-19 ทั้งการตรวจคัดกรอง, การให้บริการสถานกักกันโรค (ASQ) และการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 64 ที่มีการระบาดระลอกใหม่

ด้านกำไรสุทธิครึ่งปีแรก CHG รายงานไว้ที่ 827 ล้านบาท เทียบกับครึ่งปี 63 ที่มีกำไรสุทธิ 341 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 143% YoY จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว และรายได้อีกหนึ่งช่องทางจากธุรกิจรับจ้างบริหารโรงพยาบาลรัฐ นับเป็นธุรกิจใหม่ของ CHG โดยจะประมูลกับทางภาครัฐเพื่อเข้าไปบริหาร รับค่าตอบแทนการบริหารและบุ๊คลงในรูปของรายได้อื่น โดยที่ CHG ไม่ต้องลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ เป็นการประหยัดงบลงทุน จึงเป็นธุรกิจที่น่าติดตามพัฒนาการหลังจากนี้ หาก CHG มีการรับบริหารโรงพยาบาลรัฐเพิ่มขึ้น

สิ่งสำคัญที่ทำให้เราสนใจผลการดำเนินงานของ CHG ก็คือ อานิสงส์จากการระบาดของโควิด-19 เพราะใน Q3 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่การระบาดของโควิด-19 มีความรุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในไทย โดยมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดมากกว่า 2 หมื่นราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากระดับสูงสุด 4-5 พันรายใน Q2 จึงมองเป็นประเด็นบวกต่อการดำเนินงานของกลุ่มโรงพยาบาลทั้งกลุ่ม รวมถึง CHG ด้วย

หากวิเคราะห์จากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของ CHG ที่รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งการให้บริการตรวจคัดกรอง และการรักษาผู้ป่วยจากโควิด-19 เราจึงประเมินว่า รายได้และกำไรสุทธิของ CHG ใน Q3/64 จะเพิ่มขึ้นมากกว่า Q2/64 และ Q3/64 หรือเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY นั่นเอง

จึงนำมาสู่ข้อสรุปและมุมมองที่มีต่อ CHG ในทิศทางเป็นบวก และคำแนะนำ “ทยอยสะสม” หากราคาไม่ต่ำกว่า 3.50 บาท และสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อขาย Single Stock Futures ของ CHG เราแนะนำให้ใช้แนวรับบริเวณ 3.60 บาท ในการทยอยเปิดสถานะ Long โดยมีจุด Stop Loss ที่ 3.50 บาท