เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ตั้งแต่ 2 ม.ค.66 ถึง 25 มิ.ย.66 แตะ 12.46 ล้านคน เพิ่มขึ้น 539% YoY โดยสัปดาห์ที่ 19 มิ.ย. ถึง 25 มิ.ย. 66 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเพิ่มขึ้น 6.94% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน รวมทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมั่นใจว่านักลงทุนท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแตะ 25 ล้านคน และมีโอกาสมากที่แตะ 28-30 ล้านคน แสดงถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สังเกตได้จากกราฟ
นอกจากนี้มีอีก 3 ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว
1.จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางจีน(PBOC) ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี(LPR) ระยะ 1 ปี ลง 0.10% แตะ 3.55% จาก 3.65%, ระยะ 5 ปี ลง 0.10% แตะ 4.2% จาก 4.3% เป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 10 ปี กดแนวโน้มต้นทุนภาคธุรกิจลดลง ส่งผู้ประกอบการจีนขยายธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น หนุนเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวมากขึ้น สร้างโอกาสให้นักท่องเที่ยวจีน เดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวจีน
2.แนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า จากการเมืองไทยไม่มีความชัดเจนหลังพรรคร่วมรัฐบาลยัง ไม่สามารถตกลงตำแหน่งสำคัญอย่างประธานสภาฯ อาจลามไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สร้างความเสี่ยงทางการเมืองของไทยเพิ่มสูงขึ้น กระทบนักลงทุนชะลอการลงทุน ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก 2 ครั้งในปี 66 ทำให้เงินไหลเข้าดอลลาร์เพิ่มสูงขึ้น จากแนวโน้มผลตอบแทนเงินฝากสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น กดค่าเงินบาทอ่อนค่า สร้างโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าไทยมากขึ้น เพราะแนวโน้มค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่ำลง
3.ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ เพราะธนาคารกลางในหลายประเทศยังคงใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น กระทบผู้ประกอบการชะลอการลงทุน กระทบความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มลดลง รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จากธนาคารกลางสหรัฐฯ เสี่ยงปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปี 66 กดราคาน้ำมันที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง สร้างโอกาสให้นักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มสูงขึ้น จากต้นทุนการเดินทางที่ลดลง
จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเข้าไทยมากขึ้น หนุนรายได้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้โอกาสที่นักลงทุนกลับมาเก็งกำไรหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวใน Single Stock Future มี
กลุ่มการบิน AAV, AOT, BA
กลุ่มโรงแรม AWC, CENTEL, ERW, MINT
กลุ่มรถไฟฟ้าสาธารณะ BEM BTS
หุ้นที่เราสนใจมากที่สุดคือ BTS โดยกลยุทธ์การลงทุน
BTSU23 ฝั่งซื้อเมื่อทะลุ 7.60 บาท เป้าหมาย 7.80-8.00 บาท จุดตัดใจสิ้นวัน 7.20 บาท วางหลักประกัน 700 บาท
หรือ Block Trade 500 สัญญา วางหลักประกันเพียง 350,000 บาทเท่านั้น
Array
(
[cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV
[Secure-PHPSESSID] => sc7miruiak9dvqkgbuqaql1gsv
)
Array
(
[sesCAFXXSLAT] => 1738302861
[CAFXSI18NX] => th
[_csrf] => 07fa61f60e859d7e8c837d4f3e3ea25f
[CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-bts-usd-stock-2023.html
)
Array
(
[content] => analyze-bts-usd-stock-2023
)
Array ( )