เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2565
ราคาน้ำมัน BRENT ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยกดดันคือ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED) ลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP สหรัฐฯ จากขยายตัว 1.2% เหลือเพียง 0.5% ในปี 2566 เพราะ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมุมมองว่าดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) จะขยายตัว 3.1% มากกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.8% กระทบให้ FED คาดการณ์ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 5.00% ถึง 5.25% จากคาดการณ์ครั้งก่อนอยู่ที่ 4.50% ถึง 4.75% ในปี 2566 และคาดว่าจะลดลงเหลือ 4.00% ถึง 4.25% ในปี 2567 ส่งผลให้ความสามารถในการผลิตและการแข่งขันของผู้ประกอบการลดลง นำไปสู่การเลิกจ้างงาน โดย FED คาดการณ์ว่า ในปี 2566 อัตราการว่างงานสหรัฐฯจะอยู่ที่ 4.6% เพิ่มขึ้นจากคาดครั้งก่อนที่ 4.4% กระทบกำลังซื้อของประชาชน สหรัฐฯลดน้อยลง ส่งผลให้สหรัฐฯมีโอกาสมากที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2566 โดย Bank of America(BOA) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ทั้งนี้สหรัฐฯมีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากทั้งโลกถึง 13% เมื่อกำลังซื้อจากสหรัฐฯ ลดลง จะกระทบให้การส่งออกของทั่วโลกต่ำลง และกดการใช้น้ำมันทั่วโลกลดลง
ที่มา www.federalreserve.gov
จากราคาน้ำมันดิบ BRENT มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนกังวลแนวโน้มการใช้น้ำมันในปี 2566 ลดลง จากเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ดังนั้นหุ้นที่ได้ประโยชน์คือ AAV BA CK EPG SCGP STEC ITD SCC TASCO BGRIM GPSC RATCH GULF KEX เพราะต้นทุนพลังงานลดลง และหุ้นที่เสียประโยชน์คือ BCP ESSO OR PTG PTT PTTEP จากราคาน้ำมันปรับตัวลง กระทบรายได้ต่ำลง
Array ( [Secure-PHPSESSID] => ncvpfhvr27t7bslt6sf1cqlemt [cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732422803 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 616df88c84ee4f4b7a1446d689ea2891 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=th&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-brent-stock-2022.html )
Array ( [content] => analyze-brent-stock-2022 )
Array ( )