พฤศจิกายน ปี 63 ปัจจัยกระทบทองคำขั้นรุนแรง

---

Posted on Friday, October 30, 2020

---

ก่อนที่นักลงทุนจะได้อ่านบทความนี้ เราต้องขออภัยที่ไม่เขียนประเด็นเดือนก่อนอย่าง “อยากลงทุนทองคำต้องอ่านบทความนี้ ตอนที่ 1”  เหตุที่ต้องข้าม และนำบทความ “พฤศจิกายน  ปี 63 ปัจจัยกระทบทองคำขั้นรุนแรง” เนื่องจากในเดือน พฤศจิกายน  ปี 63 มีโอกาสเห็นความผันผวนของราคาทองคำนั่นเองการเลือกตั้งสหรัฐฯ และเราจะกลับมาเขียน “อยากลงทุนทองคำต้องอ่านบทความนี้ ตอนที่ 2” ในเดือนธันวาคม

กลับมาที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 3 พฤศจิกายน เราจะนำเสนอ 3 ประเด็นสำคัญ

1) สถิติที่ว่าหากพรรคริพับลิกันหรือพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯจะส่งผลต่อราคาทองคำอย่างไร

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ	พรรคริพับลิกัน	พรรคเดโมแครต	% การเปลี่ยนแปลงราคา Gold Spot
7 พฤศจิกายน 2543	ชนะ		-0.28%
2 พฤศจิกายน 2547	ชนะ		-1.64%
4 พฤศจิกายน 2551		ชนะ	5.09%
6 พฤศจิกายน 2555		ชนะ	1.82%
8 พฤศจิกายน 2559	ชนะ		-0.55%

จากสถิติสังเกตได้ชัดว่า หากพรรคริพับลิกันชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ราคา Gold Spot มีความเสี่ยงปรับลง แต่หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ราคา Gold Spot มีโอกาสปรับขึ้น แล้วสาเหตุที่กำหนดให้ราคา Gold Spot จากการเลือกตั้งเป็นเพราะอะไร

ตอบโดยนโยบายของพรรคริพับลิกัน และพรรคเดโมแครต

ซึ่งพรรคริพับลิกันสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นทุนนิยมแบบตลาดเสรี ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มแข็งค่า ทำให้ US Dollar Index แข็งค่า ส่วนพรรคเดโมแครตโอกาสทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน ทำให้ลดบทบาทของธุรกิจยักษ์ใหญ่ ทำให้ US Dollar Index อ่อนค่า

2) แนวโน้มที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯต่อไป หรือนายโจ ไบเดน จะประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 46 จากโพลนายโจ ไบเดน มีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์

ณ วันที่ 15 ต.ค. 2563 แหล่งข้อมูลจาก BBC poll

และเหตุที่ทำให้คะแนนเสียงของทรัมป์ลดลง เป็นเหตุจากตัวของทรัมป์เอง สังเกตได้จากการใช้นโยบายของทรีมป์ในด้านต่างๆ สามารถสร้างความเสียหายต่อทุกสิ่ง และในเดือน ต.ค. ทรัมป์สร้างข่าวหน้าใหม่ ที่ทรัมป์ติดโควิด-19 และรักษาโควิด-19 หายภายในไม่กี่วัน สร้างความมั่นใจให้กับประชากรสหรัฐฯว่า หากชาวอเมริกาเป็นโควิด-19 ก็สามารถหายได้เร็วเหมือนทรัมป์ แต่ความเป็นจริงไม่ง่ายแบบนั้น ณ วันที่ 26 ต.ค. 2563 การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯกลับมาเพิ่มสูงขึ้น

จากกราฟดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯกำลังเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 และการระบาดรอบนี้ทำให้ นักเศรษฐศาสตร์ในสหรัฐฯเกือบ 700 คน ออกเตือนชาวอเมรกันอย่าเลือกทรัมป์กลับเข้าทำเนียบขาวทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์กลุ่มดังกล่าวเดือนว่า พฤติกรรมส่วนตัวของทรัมป์ระหว่างโควิด-19 ระบาดเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการอนุญาตให้โรงเรียนเปิดอีกครั้งอย่างปลอดภัย เขาดูแคลนแนวทางในการเว้นระยะห่างทางสังคมและการสวมหน้ากาก หาเสียงภายในอาคาร สนับสนุนให้ประชาชนใช้ยาที่ ไม่ได้รับการพิสูจน์รับรองและอาจเป็นอันตราย ดูเบาความรุนแรงของโรคระบาด และยังจัดงานภายในทำเนียบขาวที่ทำให้เจ้าหน้าที่หลายคนติดโควิดและ ผู้นำทางทหารต้องกักตัว ซึ่งประเด็นที่เรากล่าวมาเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คะแนนเสียงของทรัมป์ลดลง

 3) นโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน

นโยบาย	นายโจ ไบเดน	นายโดนัลด์ ทรัมป์
เศรษฐกิจ	Buy Americans ยุติการทำสงครามการค้ากับจีน แต่เน้นในชาวอเมริกาซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ และลดการใช้สินค้าจีน เพื่อกระตุ้นให้มีการจ้างงานและเงินสะพัดในประเทศ	America First นโยบายเศรษฐกิจแบบปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ โดยตั้งกำแพงภาษีกับจีน เพื่อไม่ให้สินค้าจากจีนและประเทศอื่นๆ เข้ามาตีตลาดในประเทศได้

มองว่านโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน สุดท้ายเป็นสร้างความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ต่อจีน โดยทรัมป์ใช้ America First เรารู้ผลกระทบอยู่แล้ว เนื่องจากการเปิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน กระทบการค้าโลกเป็นปัจจัยบวกในระยะยาว ส่วนไบเดนใช้นโยบาย Buy Americans เน้นในชาวอเมริกาซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯลดการนำเข้าสินค้าจีนในทางอ้อม ก็เป็นปัจจัยกระทบการค้าโลกเช่นกันกับที่ทรัมป์ทำ แต่มีผลกระทบน้อยกว่า

สรุป การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในระยะสั้น หากพรรคริพับลิกันชนะการเลือกตั้ง ราคา Gold Spot มีความเสี่ยงปรับลง แต่หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง ราคา Gold Spot มีโอกาสปรับขึ้น

และระยะกลางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีแนวโน้มย่ำแย่ลงเป็นปัจจัยบวกต่อราคา Gold Spot