เก็งกับการประชุม FOMC ก.ค. 65

---

Posted on Thursday, July 21, 2022

---

สัปดาห์หน้า(25-29 ก.ค. 65)นักลงทุนกำลังจะเจอการประชุม FOMC ที่จะกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐฯ มาพร้อมกับความกังวลของนักลงทุนที่คาดการณ์ว่าการประชุม FOMC จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75 จึงมีคำถามว่าอะไรคือ ปัจจัยกดดันให้คณะกรรมการ FOMC ขึ้นดอกเบี้ยต่อ

 

 

สิ่งที่กดดัน คณะกรรมการ FOMC ให้ขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ คือ “อัตราเงินเฟ้อสูงสหรัฐฯที่สูงสุดในรอบ 42 ปี” กำลังหมายความว่า ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นมากและกระทบต่อฐานะของประชาชนในสหรัฐฯ ทำให้การใช้จ่ายลดลง กระทบต่อธุรกิจ เมื่อเงินเฟ้อเพิ่มประชาชนลดการใช้จ่าย ยอดขายของธุรกิจลดลง แต่ต้นทุนการผลิตก็เพิ่มขึ้น อาจทำให้ธุรกิจบางประเภทก็ตัดสินใจชะลอการผลิต และลดการลงทุนและลดการจ้างงานในที่สุด หากมองภาพใหญ่จากภาวะที่กำลังซื้อลดลง ธุรกิจชะลอตัว การลงทุนใหม่ลดลง กด GDP ของประเทศลง

จากเงินเฟ้อที่ร้อนแรงเป็นเงื่อนไขสำคัญกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ โดยหุ้นที่มองว่า จะหาประโยชน์จากสถานการณ์นี้ คือ หุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐฯขาขึ้นรอบนี้ กระทบต่อนโยบายการเงินทั่วโลก สร้างโอกาสที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ปรับขึ้นตาม จึงเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น จูงใจให้ธนาคารทำโปรโมชั่นเพื่อดึงเงินฝากจากประชาชน

โดยประชาชนจะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยในการฝากเงิน และธนาคารเองจะมีวงเงินในการปล่อยเงินกู้เพิ่มขึ้น อยากให้ลองคิดตามว่า ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากราวๆ 1-2% ต่อปี แต่ธนาคารจะปล่อยกู้ราวๆ 5-6% ต่อปี  จากวิธีการนี้จะเห็นภาพว่า ธนาคารจะได้เงินระยะสั้น(เงินฝาก) ไปปล่อยกู้ระยะยาว ทำให้ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากเพียง 1-2% ต่อปี แต่การปล่อยกู้ได้ดอกเบี้ยราว 5-6% ต่อปี ส่วนต่างที่ธนาคารจะได้ราว 3- 4% และนี่ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมที่ธนาคารจะได้

 

 

เราจึงแนะนำเข้าซื้อในหุ้น BBL เพราะได้ส่วนต่างของดอกเบี้ย ที่กำลังเพิ่มขึ้น ประกอบกับแนวโน้มรายได้จากดอกเบี้ยและมิใช่ดอกเบี้ยในปี 2565 ขยายตัวจากการที่ BBL ได้ซื้อธนาคารเพอร์มาตาในประเทศอินโดนีเซีย(ตั้งแต่ปี 2563) การบริโภคในอินโดนีเซียกำลังเพิ่มขึ้น

กลยุทธ์ BBLU22
Long 125-127
เป้าหมาย 135-138
จุด Stop Loss 124