Posted on Thursday, January 7, 2021
เริ่มต้นสัปดาห์แรกของการเทรดด้วยประเด็นลบในช่วงวันหยุดยาว โดยเฉพาะการระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 ในประเทศไทย ซึ่งตัวเลขของผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การยกระดับการใช้มาตรการควบคุมการระบาดอีกครั้ง และบางจังหวัดถูกยกให้เป็นพื้นที่เสี่ยงสูง นำไปสู่การใช้มาตรการ Lockdown ไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นรับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวแค่ไม่นาน แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นราวกับไม่ใช่เรื่องร้ายแรง โดยในวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา SET เปิดร่วงจากระดับ 1,449.35 จุด สู่จุดต่ำสุดที่ 1,425.48 จุด แล้วกลับมาปิดบวกต่อเนื่องมาถึงวันที่ 5 ม.ค. ซึ่งปิดที่ระดับ 1,506.65 จุด รวม 2 วันปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 57.30 จุด หรือ +3.95%
ไฮไลท์ในการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นต้นปี 64 เราขอมุ่งประเด็นไปที่หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่มีสัญญาณซื้อทางเทคนิคเข้ามา พ่วงด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ค่อนข้างจำกัด และการต่อยอดธุรกิจของ 2 บริษัทอย่าง EA และ GPSC ที่มีความน่าสนใจ ทำให้กลุ่มโรงไฟฟ้ารับ Sentiment บวกตามกันไปทั้งกลุ่ม
สำหรับ EA และ GPSC ซึ่งได้มีการพูดถึงธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ โดยเฉพาะ GPSC ที่ได้สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ด้วยเทคโนโลยี Semi-Solid และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายใน Q2/64 ที่จะถึงนี้ ความน่าสนใจของธุรกิจนี้ คือ เป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ด้านพลังงานสะอาดในอนาคต ทั้งในฝั่งของการใช้รถยนต์ EV และอุตสาหกรรม รวมถึง Smart City ที่ต้องการใช้พลังงานสะอาดเต็มรูปแบบ จึงมีความเป็นไปได้ว่าในอนาคต ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ในมุมมองของเรา ยังประเมินไม่ได้ว่าการใช้พลังงานสะอาดเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ และจะทำได้เมื่อไร ซึ่งต้องติดตามการดำเนินงานและพัฒนาการของบริษัทในกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
ส่วน EA ได้เริ่มทำธุรกิจด้านการกักเก็บพลังงาน ทั้งแบตเตอรี่และสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไปแล้ว ทำให้ปัจจัยของคู่แข่งอย่าง GPSC กลายเป็นปัจจัยบวกต่อ EA ไปด้วย
จากปัจจัยซัพพอร์ตตรงนี้เอง ทำให้ราคาหุ้นของ EA และ GPSC กลายเป็นหุ้นที่นำตัวอื่นๆในกลุ่มโรงไฟฟ้าขึ้นมา หากนับเฉพาะหุ้นอ้างอิง Single Stock Futures ได้แก่ BCPG, BGRIM, BPP, CKP, EGCO, GULF, GUNKUL, RATCH และตัวจิ๋วอย่าง SUPER ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานทดแทนที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นในอนาคต
ส่วนด้านราคาหุ้น ตัวที่ปรับตัวโดดเด่นมากที่สุด คือหุ้น EA ซึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 30.96% เมื่อเทียบราคาระหว่างสิ้นปี 2563 กับราคาปิดช่วงพักเที่ยงของวันที่ 6 ม.ค. 64 นำมาซึ่งคำถามจากนักลงทุนหลายท่านว่า ถ้าจะลงทุนในหุ้น หรือ Single Stock Futures ของ EA ควรวางกลยุทธ์อย่างไร?
เราพบว่า EA มีแนวรับใกล้ที่สุดบริเวณ 53 บาท หรือจุด Low ของแท่งวันที่ 5 ม.ค. และจุดเปลี่ยนเทรนด์ที่ 51 บาท สำหรับนักลงทุนที่สนใจเปิดสถานะ Long ใน EA Futures บริเวณที่น่าสนใจ คือการย่อไม่ต่ำกว่า 53 บาท โดยมีจุด Stop Loss ที่ 51 บาท สิ่งที่ต้องจับตาเพิ่มเติม คือ วอลุ่มต้องลดลงเมื่อมีการย่อ บ่งบอกถึงสัญญาณการพักตัว
หมายเหตุ: ราคา ณ วันที่ 6 ม.ค. 63
Array
(
[Secure-PHPSESSID] => ba0i61qhdftqmn5bh97u77g50v
[cooCAFXXSUAV] => cooCAFXXSUAV
)
Array
(
[sesCAFXXSLAT] => 1732588745
[CAFXSI18NX] => en
[_csrf] => 8b8d7dc1555de47a4203db277517122f
[CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/switcher.html?action=language&language=en&origin=https%3A%2F%2Fwww.caf.co.th%2Farticle%2Fanalyze-ea-stocks-2021.html
)
Array
(
[content] => analyze-ea-stocks-2021
)
Array ( )