ADVANC-DTAC-TRUE กับการประมูล 5G

---

Posted on Thursday, February 13, 2020

---

เข้าสู่สัปดาห์สำคัญที่ทุกคนรอคอย โดยเฉพาะแฟนคลับกลุ่มสื่อสารทั้ง 3 ค่าย ได้แก่ ADVANC, DTAC และ TRUE ในการประมูล 5G ที่จะเริ่มในวันที่ 16 ก.พ. 2563 นี้ นอกจากผู้ประกอบการทั้ง 3 รายดังกล่าวแล้ว ยังมีผู้ประกอบการคู่แข่งอีก 2 รายเพิ่มเข้ามาร่วมวงประมูล 5G ในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (TOT) และ บมจ. กสท โทรคมนาคม (CAT)

หลังจากที่เราทราบกันแล้วว่าการประมูล 5G ครั้งนี้ มีผู้ยื่นซองทั้งหมด 5 รายด้วยกัน ได้แก่ ADVANC, DTAC, TRUE, TOT และ CAT เรามาดูกันก่อนว่า อะไรคือสิ่งที่เราต้องจับตาเกี่ยวกับการประมูล 5G ในครั้งนี้

1. กสทช. จัดประมูลคลื่นความถี่ 4 ย่านความถี่ ได้แก่ คลื่น 700 MHz จำนวน 3 ชุด, คลื่น 1,800 MHz จำนวน 7 ชุด, คลื่น 2,600 MHz จำนวน 19 ชุด และ คลื่น 26 GHz จำนวน 27 ชุด แต่ละคลื่นความถี่มีจำนวนที่นำมาประมูลต่างกัน ราคาเริ่มต้นการประมูลต่างกัน รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินต่างกัน ทั้งนี้ จากรายงานของ กสทช. พบว่า คลื่น 1,800 MHz ไม่มีโอเปอเรเตอร์รายใดเข้าประมูล
2. มีแนวโน้มว่าผู้ยื่นซองประมูลแต่ละรายมีความต้องการคลื่นความถี่ ดังนี้
   - เราคาดว่าทั้ง 3 ค่ายมือถือ ได้แก่ ADVANC, DTAC และ TRUE จะเน้นที่คลื่น 2,600 MHz และ 26 GHz เพราะเป็นคลื่นที่เหมาะสมในการพัฒนาการ 5G เพื่อรักษาฐานลูกค้า และการให้บริการที่ดีขึ้น
   - ส่วน TOT และ CAT นั้น เราคาดว่าจะเน้นที่คลื่น 700 MHz เป็นหลัก เนื่องจากเป็นคลื่นความถี่ต่ำ กระจายสัญญาณได้กว้างกว่า ครอบคลุมการให้บริการที่มากกว่า และเหมาะสมในการวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการสื่อสารและโทรคมนาคม
   เมื่อความต้องการต่างกัน บวกกับการที่จำนวนคลื่นความถี่มีหลายชุด จึงมีความเป็นไปได้ว่าการประมูลในแต่ละใบอนุญาตอาจมีการแข่งขันไม่สูงและส่งผลให้ราคาใบอนุญาตไม่มากเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีกับผู้ชนะการประมูล ในเรื่องของต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายระยะยาวที่ต่ำกว่าหลายคนคาดไว้ ในทางตรงข้าม หากการประมูลมีการแข่งขันกันสูงกว่าที่คาดไว้ ก็จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารเหมือนที่เคยเกิดขึ้นแล้วตอนประมูล 4G
3. การประมูลจะเริ่มในวันที่ 16 ก.พ. 2563 แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าการประมูลจะกินเวลากี่วัน ทำให้ราคาหุ้น ADVANC, DTAC และ TRUE มีโอกาสผันผวนสูงมากจนกว่าเราจะทราบผลการประมูลแน่ชัดว่าใครได้คลื่นความถี่ใดบ้าง
4. สำคัญกว่าผลการประมูลว่าใครได้คลื่นอะไร คือ ชนะการประมูลแต่ละคลื่นที่ราคาเท่าไร เพราะนั่นคือต้นทุนที่บริษัทจะต้องแบกรับกันแบบ Long Term เลยทีเดียว สิ่งที่อาจจะตามมาคือ กำไรสุทธิที่อาจจะลดลงจากต้นทุนทางการเงินหรือภาระค่าใช้จ่ายใบอนุญาตที่ได้จากการประมูล

นี่คือ 4 สิ่งที่ทุกคนต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในการประมูล 5G ครั้งนี้...คำถามต่อมาคือ แนวโน้มราคาหุ้นของ ADVANC DTAC และ TRUE จะเป็นอย่างไรในช่วงที่มีการประมูล วันนี้เราจะพาคุณย้อนไปดูราคาของทั้ง 3 ค่ายในช่วงประมูล 4G เมื่อปลายปี 2558 แล้วมาวิเคราะห์เพื่อกำหนดกลยุทธ์การซื้อขาย Single Stock Futures ในช่วงที่มีการประมูล 5G

ราคาหุ้น ADVANC-DTAC-TRUE เป็นอย่างไรในช่วงประมูล 4G

หลายท่านน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่าการประมูล 4G มีผู้เข้าแข่งขัน 4 ราย คือ ADVANC, DTAC, TRUE และ JAS กินระยะเวลาเกือบ 4 วัน และจบลงด้วยมูลค่าใบอนุญาตที่สูงมาก ดังนี้

คลื่น 900 MHz ผู้ชนะประมูล ADVANC มูลค่า 75,654 ล้านบาท และ TRUE มูลค่า 76,298 ล้านบาท

(JAS เป็นผู้ชนะในครั้งแรก แต่สละใบอนุญาต จึงทำให้ต้องมีการประมูลอีกครั้งและ ADVANC เป็นผู้ชนะไป)

คลื่น 1,800 MHz ผู้ชนะประมูล ADVANC มูลค่า 40,986 ล้านบาท และ TRUE มูลค่า 39,792 ล้านบาท

จากการที่ใบอนุญาตในการประมูล 4G จบลงด้วยมูลค่ามหาศาลเกินกว่าที่หลายคนคาดไว้ ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าผลประกอบการและกำไรสุทธิของกลุ่มสื่อสารที่อาจลดลงในระยะยาว จากการที่มีภาระค่าใช้จ่ายใบอนุญาต 4G จึงทำให้เกิดการเทขายหุ้นและราคาหุ้นของผู้เข้าประมูลทั้ง 4 รายร่วงลงกว่า 50%

หากเราอ้างอิงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจากการประมูล 4G เราจะพบความเป็นไปได้ที่ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารจะปรับตัวลงในช่วงที่มีการประมูล ทั้งนี้ ในการกำหนดกลยุทธ์การซื้อขาย Single Stock Futures ช่วงที่มีการประมูล 5G เรามีมุมมองว่าการซื้อขายในฝั่ง Short ค่อนข้างได้เปรียบกว่า เราจึงวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคเพื่อค้นหาหุ้นที่มีแนวโน้มขาลงชัดเจน และมีพื้นที่ในการทำกำไรฝั่ง Short คุ้มกับความเสี่ยง

เราพบว่า ADVANC เป็นหุ้นที่น่าสนใจมากที่สุด หากต้องการเก็งกำไรฝั่ง Short ในช่วงการประมูล 5G เนื่องจากทางเทคนิคมีแนวโน้มขาลงชัดเจน มีแนวแนวต้านใกล้ๆที่บริเวณ 210 บาท แนวรับใกล้สุดที่ 190 บาท

สำหรับการเข้า Short ใน ADVANC Futures จะแนะนำให้ซื้อขายบน ADVANCH20 ซึ่งจะสัญญาที่จะหมดอายุในเดือนมีนาคมหรือใกล้ที่สุด มีสภาพคล่องสูงเหมาะแก่การเก็งกำไรระยะสั้น โดยเข้า Short ที่ 200-205 บาท เป้าหมายทำกำไรที่ 180-190 บาท และจุด Stop Loss 211 บาท สามารถใช้ Block Trade ในการเข้าสถานะ โดยมีสัญญาขั้นต่ำที่ 20 สัญญา

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมเงื่อนไขสำคัญ 2 ข้อ คือ

• ต้องยอมรับผลการขาดทุนหากราคาขึ้นมาแตะ Stop Loss ในกรณีที่มีความชัดเจนว่า ADVANC เป็นผู้ชนะการประมูล แล้วราคาหุ้นฟื้นตัวกลับมา
• การแข่งขันในการประมูลเป็นกุญแจสำคัญต่อการปรับตัวของราคาหุ้น หากการแข่งขันยิ่งสูง ราคาหุ้นยิ่งผันผวนสูงไปด้วย ดังนั้น ควรติดตามสถานการณ์การประมูลอย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือกับราคาหุ้นที่มีโอกาสผันผวนตลอดเวลา