เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2563
จากความวิตกกังวลไวรัสโคโรนา หรือไวรัสโควิด-19 ที่ลามถึงตลาดหุ้นทั่วโลกและทำให้ SET ร่วงมาตั้งแต่ต้นปี 2563 ถึงแม้ว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นในจีนที่มีรายงานว่าสามารถสกัดและควบคุมเชื้อไวรัสได้แล้วหลังจากปิดเมืองอู่ฮั่น แต่อย่างไรก็ตาม การระบาดของเชื้อไวรัสกลับเพิ่มขึ้นในประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลีใต้, อิตาลี, อิหร่าน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และสร้างความกังวลให้กับประเทศเบอร์หนึ่งอย่างสหรัฐฯ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นในสหรัฐฯร่วงลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับดัชนี SET เองก็ไม่น้อยหน้านานาประเทศ หลังพบชายติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังกลับจากต่างประเทศกับครอบครัวที่ รพ. บี แคร์ เมดิคอล เซนเตอร์ และมีการประกาศเฝ้าระวังการระบาดของเชื้อไวรัส ก่อให้เกิด Sentiment ลบต่อตลาดหุ้นและทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวลดลงมากถึง 155 จุด จาก 1,495 จุดมาสู่ 1,340 จุดในเวลาเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น
หากมองอีกมุมนึง บางครั้งโอกาสก็มาในรูปแบบของวิกฤตอะไรซักอย่าง เนื่องจากตลาดหุ้นมักมีความอ่อนไหวทางอารมณ์ต่อเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยบวกหรือปัจจัยลบ การปรับตัวลดลงจากปัจจัยลบที่เข้ามา เมื่อปัจจัยดังกล่าวหายไป ไม่ช้าจะเกิดการฟื้นตัวให้เราได้มีโอกาสทำกำไรอีกครั้งนึง...ผมอยากเน้นคำว่า “โอกาส” และที่สำคัญกว่าโอกาสในการลงทุนทำกำไรแล้ว การที่หุ้นลงหนัก เป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้ และสะสมประสบการณ์ในการลงทุนให้มากขึ้น
หุ้นลง...โอกาสในการเริ่มเรียนรู้
เชื่อว่านักลงทุนสายเก็งกำไรหลายท่านชอบตลาดขาขึ้น เนื่องจากการซื้อหุ้นในเวลาที่ตลาดขาขึ้นย่อมได้เปรียบและทำกำไรง่ายกว่า และหลายคนไม่ชอบตลาดขาลง เนื่องจากทำกำไรยากกว่า เพราะยิ่งซื้อเท่าไรหุ้นยิ่งลง หมายความว่า ยิ่งตลาดเป็นขาลงมากเท่าไร โอกาสทำกำไรในหุ้นจะยากขึ้นเท่านั้น ซึ่งวันนี้เราจะขยายความเพิ่มเติมว่า เราควรเรียนรู้อะไรในช่วงที่ตลาดเป็นขาลง
1. เรียนรู้ปัจจัยพื้นฐาน เพื่อเลือกหุ้นและลงทุนระยาว
หากเรามองในแง่ดี การที่หุ้นกลับมาเป็นขาลงอาจเป็นช่วงที่ดีในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในด้านการลงทุนให้มากขึ้น ทั้งการอ่านปัจจัยพื้นฐาน ทำความรู้จักบริษัทให้มากขึ้น เรียนรู้การอ่านงบการเงิน เพื่อนำไปเลือกหุ้นที่ต้องการสะสมและถือระยะยาว ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้พบกับหุ้นพื้นฐานดี มีกำไรระยะยาวดี และเพิ่มมูลค่าพอร์ทของเราให้โตขึ้นในอนาคตก็ได้
2. เรียนรู้สินค้าที่สามารถทำกำไร และบริหารความเสี่ยงพอร์ทในช่วงขาลง
หรือจะเป็นเรื่องตราสารทางเลือกที่นอกเหนือจากการซื้อหุ้น และใช้เก็งกำไรในสภาวะตลาดขาลงได้ อาทิเช่น DW, Futures และ Options ที่มีประโยชน์ในการเก็งกำไร และบริหารความเสี่ยงพอร์ทในช่วงที่ตลาดเป็นขาลงได้ ซึ่งสินค้าแต่ละชนิดมีลักษณะต่างกัน ทำให้การวางกลยุทธ์และวิธีทำกำไรจะแตกต่างกัน และที่สำคัญ ในช่วงที่ตลาดขาขึ้นสินค้าเหล่านี้ก็สามารถสร้างกำไรให้พอร์ทของคุณได้มากกว่า โดยใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่าการลงทุนในหุ้นอีกด้วย
3. เรียนรู้การบริหารพอร์ทและการทำ Asset Allocation
การทำ Asset Allocation หรือการกระจายการลงทุน ถือเป็นการบริหารพอร์ทลงทุนที่มีความสำคัญมาก อย่างที่เราเคยได้ยินคำว่า “อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว” เพราะหากตะกร้าใบนั้นตกเราจะเสียไข่ทั้งหมดไป จึงเป็นที่มาของการกระจายการลงทุนนั่นเอง
แต่การกระจายการลงทุนนั้น คุณจะต้องผ่านการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสินค้าทางการเงินอื่นๆนอกเหนือจากหุ้น ทั้งตราสารหนี้ กองทุนรวม ประกันชีวิตที่สามารถลดความเสี่ยงของพอร์ทลงทุนได้ และศึกษาเกี่ยวกับสินค้าประเภท Futures เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรให้มากขึ้นในทุกสภาวะตลาด นอกจากนี้ ท่านควรศึกษาเกี่ยวกับการจัดสรรเงินให้เหมาะสมกับความสามารถและความต้องการของท่านเอง และที่สำคัญคือ การถือระยะยาวตามสัดส่วนการลงทุนที่ได้จัดสรรอย่างมีวินัย เพราะนอกจากโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงจากความผันผวนในระยะสั้นได้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือ 3 สิ่งที่ท่านควรใช้เวลาว่างไม่ว่าจะตอนตลาดปิดทำการ หรือช่วงตลาดหุ้นลงหนักๆแล้วใช้โอกาสนี้เป็นการพักการลงทุน หันมาเพิ่มเติมความรู้ให้มากขึ้น เพื่อกลับไปลงทุนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น บริหารพอร์ทลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ที่เข้าตลาดมาได้ไม่นาน นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ศึกษาความเป็นไปและธรรมชาติของตลาดว่ามีขาขึ้น ก็ต้องมีขาลงเป็นธรรมดา...และเป็น 3 สิ่งที่ทำให้นักลงทุนก้าวผ่านทุกช่วงเวลาของตลาดได้มั่นคงมากกว่าเดิม
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732673226 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 32f28bb9d35b0e51a633ce094a781494 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/share-down-heavily-opportunities-learn-things-you-dont-know.html )
Array ( [content] => share-down-heavily-opportunities-learn-things-you-dont-know )
Array ( )