เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2562
เริ่มส่งสัญญาณขาลงแล้วใช่มั้ย สำหรับหุ้นอ้างอิงสุดร้อนแรงครึ่งปี 2562 อย่าง PTG หรือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ที่เราต้องบอกว่า เรายังไม่เห็นการทำ New Low ของราคาหุ้นมาตั้งแต่ ม.ค. เนื่องจากราคามีการปรับตัวขึ้นไม่หยุด นับจากที่ราคาเริ่มออกสตาร์ทตอนต้นปีบริเวณ 8.50 บาท Breakout ที่ 11 บาท และทำจุดสูงสุดที่ 23.10 บาท ณ วันที่ 23 ก.ค. หรือปรับตัวขึ้นแรงกว่า 170% โดยใช้ระยะเวลาเพียงครึ่งปีเท่านั้น เพราะได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการและกำไรสุทธิใน Q1/62 และ Q2/62 ที่กลับมาเติบโตอีกครั้ง
จนกระทั่งเดือน ส.ค. ราคาหุ้นหยุดทำ New High เหนือ 23 บาท และหนำซ้ำยังทำ New Low เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมาด้วยราคา 17.10 บาทซึ่งเป็นราคาต่ำสุดของวันดังกล่าว…คำถามที่ตามมา คือ “ราคาหุ้น PTG กลับตัวเป็นขาลงแล้วหรือยัง?” บทความวันนี้จะพูดถึงปัจจัยพื้นฐานด้านภาพรวมธุรกิจใน Q2/62 ประกอบกับภาพรวมทางเทคนิคของ PTG และพิเศษสุดๆ สำหรับท่านที่ถือหุ้น PTG แล้วอยากป้องกันความเสี่ยง รวมถึงท่านที่ไม่มีของ แล้วอยากเก็งกำไร เรามีคำแนะนำการลงทุนใน Single Stock Futures ของ PTG อย่างไร
Highlight สำคัญที่เกิดขึ้นใน Q2/62
อ้างอิงจากรายงานผลการดำเนินงาน Q2/62 ของ PTG กล่าวว่า รายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น มาจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันและรายได้จากธุรกิจ Non-Oil ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่ลดลง QoQ เป็นผลมาจากส่วนต่างของราคาค้าปลีกน้ำมัน และต้นทุนการจำหน่ายที่แคบลง รวมไปถึงการขยายสาขาของธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ Non-Oil ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร (SG&A) เพิ่มขึ้น และส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง QoQ
ในส่วนของ EBITDA ต้องบอกว่าเป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่ PTG วางไว้ คือ 40-50% YoY เพราะ เติบโตกว่า 53.4% YoY มาจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และธุรกิจ Non-Oil อย่าง กาแฟพันธุ์ไทย ที่กำลังเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ปัจจัยเสี่ยง
ถึงตรงนี้ท่านคงทราบปัจจัยพื้นฐานที่ต้องติดตามในเบื้องต้นกันแล้ว ส่วนภาพรวมเทคนิคเป็นยังไง และเรามีความเห็น รวมถึงกลยุทธ์การลงทุนใน Single Stock Futures ของ PTG อย่างไรบ้าง
ภาพรวมทางเทคนิคและคำแนะนำด้านกลยุทธ์ใน Single Stock Futures
หากดูทางเทคนิค ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่าราคาหุ้น PTG หยุดสร้าง New High เหนือ 23 บาท หลุดแนวรับสำคัญ 18.40 บาท และสร้าง New Low ที่ 17.10 บาท ตามหลักเทคนิคเบื้องต้นจะถือว่า ในระยะสั้นมีแนวโน้มเป็นขาลงแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าราคาไม่สามารถผ่านแนวต้าน 18.40 และ 19.70 บาทได้ จะเป็นการคอนเฟิร์มแนวโน้มขาลงในลำดับต่อไป
ด้านกลยุทธ์การลงทุนใน Single Stock Futures ของ PTG สำหรับนักเก็งกำไรให้เน้นความสำคัญไปที่ แนวต้าน 18.40 / 19.70 บาท และแนวรับ 16.90 บาท โดยมีคำแนะนำ ดังนี้
ส่วนกลยุทธ์สำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากการถือ PTG ไว้ในพอร์ทหุ้น จะแนะนำให้เข้า Short เมื่อราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวต้าน 19.70 บาท แล้วไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นป้องกันความเสี่ยง และกำหนด Stop Loss เมื่อมีการทะลุแล้วยืนเหนือ 19.70 บาท
สรุปทางเทคนิคและกลยุทธ์: ระยะสั้นยังมีมุมมองในฝั่ง Short เนื่องจากภาพทางเทคนิคเป็นขาลง ประกอบกับราคามีการปรับตัวขึ้นมามาก จึงมีความเสี่ยงในการปรับฐานได้มากเช่นกัน ส่วนในระยะยาว เราอาจมีการปรับมุมมองเป็นฝั่ง Long หากมีการปรับฐานไปแล้ว ซึ่งต้องเราต้องมาวิเคราะห์ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวหลังจากการขยายธุรกิจของ PTG ว่ามีทิศทางการเติบโตของธุรกิจอย่างไร
สรุป: ราคาหุ้น PTG ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 170% ในเวลาเพียงครึ่งปี จากผลประกอบการที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก และ PTG ยังมีโอกาสทางธุรกิจในระยะยาวที่ดี แม้ว่าในระยะสั้นจะมีความเสี่ยงในเรื่องการใช้เงินลงทุนเพื่อขยายกิจการ พ่วงด้วยปัจจัยภายนอกอย่างสงครามการค้าและความรุนแรงในตะวันออกกลางที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน ทั้งราคาขายและต้นทุน ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อรายได้และกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ PTG มีความมั่นใจที่จะรักษาระดับการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันให้มากกว่า 20% YOY ไปจนถึง Q4 เพื่อมาชดเชยความเสี่ยง และรักษาระดับการเติบโตของรายได้จากการขายน้ำมัน รวมไปถึงการเติบโตของกำไรสุทธิของปีนี้
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732275794 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => df895010bf13afec4333e9069c84979e [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/ptg-long-or-short.html )
Array ( [content] => ptg-long-or-short )
Array ( )