บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด

จับตา CPF กับโอกาสทำกำไรในปี 63

จับตา CPF กับโอกาสทำกำไรในปี 63

เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563


CPF กลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่ต้องจับตามองในปี 2563 ด้วยเหตุผลทางด้านปัจจัยพื้นฐานที่เข้ามากระทบตั้งแต่ปี 2562 จากประเด็นอหิวาต์แอฟริกาในหมู มีหมูติดเชื้อจำนวนมากทั้งที่ตายและถูกกำจัด ทำให้ปริมาณหมูในตลาดโลกลดลง ในขณะที่หมูเป็นสินค้าที่มีความต้องการซื้อจำนวนมาก ทำให้ราคาหมูปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ เกิด sentiment บวกต่อ CPF ในแง่รายได้จากการขายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ราคาหุ้น CPF จึงวิ่งจากโซน 25 บาทสู่ราคา 29-30 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากประเด็นดังกล่าว

เพียงแต่ว่าในช่วงนี้ ตลาดเกิดความผันผวนและมีความเสี่ยงสูงจากประเด็นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะไวรัสโคโรนาที่กดดันทั้งภาคการท่องเที่ยวและความต้องการบริโภค ทำให้ราคาหุ้นที่เคยปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ เกิดแรงเทขายและกลับตัวลงระยะสั้น โดย CPF มีการปรับตัว -8% จากผลกระทบด้านกำลังซื้อของไวรัสโคโรนา และไข้หวัดนกที่ระบาดซ้ำในจีน จึงเกิด Sentiment ลบต่อธุรกิจไก่ของ CPF ในจีน

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่น่าติดตามและมีผลกระทบเชิงบวกต่อ CPF ในปี 2563 ที่จะตอบคำถามว่า “ทำไม CPF จึงเป็นหุ้นที่ต้องจับตามองในปี 2563” จากการวิเคราะห์พบว่า มีด้วยกัน 3 ประเด็น...จะมีอะไรบ้าง วันนี้ CAF จะมาเล่าให้ท่านฟัง

1. ปัจจัยลบกระทบภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2563 แต่กลุ่มอาหารเป็นหลุมหลบภัย

เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2563 ภาวะเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศ ต้องเผชิญกับปัจจัยลบมากมาย ทั้งความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน, ภัยแล้ง, ฝุ่น PM2.5, งบประมาณปี 63 ล่าช้า และไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาด ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากจีน เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ซึ่งหน่วยงานที่ดูแลด้านเศรษฐกิจต่างออกมาปรับลดคาดการณ์ GDP กันเป็นแถบ สำหรับไทยนั้น ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ของไทยลงเหลือเติบโต 2.8% จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะเติบโต 3.3% เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงรอบด้านทั้งในไทยและต่างประเทศ

ในภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวแต่ผู้คนยังจำเป็นต้องกินต้องใช้เพื่อการดำรงชีพ ทำให้สินค้าของบริษัทในธุรกิจอาหารยังเป็นสิ่งที่ต้องการ ดังนั้น หุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจอาหารจึงมีความน่าสนใจในการซื้อสะสมเพื่อการลงทุน ถือเป็นหลุมหลบภัยชั้นดีในเวลาที่ตลาดเกิดความผันผวน หรือเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว     

2. ไข้หวัดนก H5N1 ระบาดซ้ำในจีน

นอกจากไวรัสโคโรนาแล้ว จีนยังต้องพบกับไข้หวัดนก H5N1 ระบาดที่เซ่าหยาง มณฑลหูหนาน เบื้องต้นส่ง Sentiment ลบต่อธุรกิจไก่ในจีน ทำให้เกิดแรงเทขายหุ้น CPF และส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัว -6.67% รับข่าวดังกล่าว เนื่องจาก CPF มีฐานการผลิตไก่ในจีน ที่สร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของรายได้รวม

ทั้งนี้ การที่รัฐบาลจีนสั่งฆ่าไก่จำนวนเกือบ 20,000 ตัวเพื่อควบคุมการระบาดนั้น ทำให้ปริมาณไก่ในตลาดมีจำนวนลดลง อาจส่งผลให้ราคาไก่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต หากความต้องการบริโภคไก่กลับมาเป็นปกติ จะส่งผลให้เกิด sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้น CPF

3. ภัยแล้ง มีผลกระทบทางอ้อมต่อราคาหมูและไก่

ด้านภาคการเกษตรของไทย เกิดปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากปริมาณฝนน้อย และเกิดฝนทิ้งช่วงซึ่งคาดว่าจะยาวไปถึงเดือน พ.ค. ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งมีไม่ถึง 30% ของปริมาณความจุเขื่อน สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามมา คือ ผลผลิตทางการเกษตรที่มีปริมาณลดลง อาจนำไปสู่การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสัตว์ และทำให้ราคาเนื้อสัตว์ ทั้งหมูและไก่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกจากการที่ต้นทุนการเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น

หากเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ CPF ก็มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยทางอ้อมเรื่องภัยแล้ง ทั้งนี้ จะต้องติดตามเรื่องของกำลังซื้อด้วย หากราคาสินค้าแพงขึ้นแต่กำลังซื้อลดลง ก็อาจส่งผลในทิศทางตรงกันข้าม และทำให้ CPF มีโอกาสแกว่งตัวไร้ทิศทางหรือปรับตัวลดลง

โดยสรุป สำหรับ CPF ในระยะสั้นยังมีภาพไม่ค่อยดีจากไวรัสโคโรนาที่กดดันการท่องเที่ยวและกระทบการบริโภค ประกอบกับไข้หวัดนกที่ระบาดในจีน ส่ง Sentiment ลบระยะสั้น ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่เราจะต้องติดตามจนกว่าจะสามารถควบคุมโรคได้ ซึ่งจะทำให้ภาพรวมการลงทุนกลับสู่ภาวะปกติ ความต้องการบริโภคจะมีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงราคาไก่ที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความต้องการซื้อที่จะกลับมาในอนาคต

ทั้ง 3 ประเด็นที่เรากล่าวมานี้ เป็นเพียงสิ่งที่ส่งผลต่อ Sentiment เชิงบวกของ CPF ซึ่งเราจะต้องติดตามข้อเท็จจริง (Facts) ที่มีผลต่อราคาหุ้นมากกว่า โดยติดตามได้จากผลประกอบการทุกไตรมาส ทั้งนี้ พวกเรา CAF จะทำการอัพเดทผลประกอบการทุกไตรมาสให้นักลงทุนได้ทราบ พร้อมมุมมองและคำแนะนำด้านกลยุทธ์การลงทุนใน Single Stock Futures ของ CPF ว่าเป็นอย่างไร

คำแนะนำการลงทุนใน CPF Futures

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้น CPF เพื่อการสะสมและลงทุนระยะยาว ในช่วงนี้อาจจะยังไม่ใช่จังหวะที่ดีนัก เนื่องจากยังอยู่ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง และมีความเสี่ยงจากประเด็นโรคระบาด ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือ รอให้โรคระบาดและทุกอย่างผ่อนคลายลงก่อน แล้วหาจังหวะเข้ามาสะสมเพิ่ม เนื่องจาก CPF เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากปันผลถึง 2% และมีการจ่ายสม่ำเสมอ ถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจตัวนึง หากต้องการลงทุนระยะยาวและรับเงินปันผล

ส่วนผู้ที่ต้องการซื้อขาย Single Stock Futures ของ CPF ทางเทคนิค จากหน้าเทรดในตอนนี้ พบว่ากำลังเข้าสู่แนวโน้มขาลงระยะสั้น การเทรดฝั่ง Short จึงมีความได้เปรียบกว่าในแง่ของผลตอบแทนเปรียบเทียบกับความเสี่ยง เราจึงแนะนำเทรดในฝั่ง Short โดยมีจุดเข้าบริเวณ 28-29 บาท เป้าหมาย 25.50-26 บาท และจุด Stop Loss เมื่อทะลุ 30 บาท

 

สนใจลงทุน CPF Futures กับ CAF เริ่มต้นที่...

1. CPF Futures ซีรีส์ใดก็ตาม 1 สัญญา วางเงินหลักประกันเพียง 2,166 บาท

2. Block Trade ขั้นต่ำ 100 สัญญา วางเงินหลักประกัน 216,600 บาท

เปิดบัญชี TFEX
รับสิทธิพิเศษทันที !!
Array
(
)
		
Array
(
    [sesCAFXXSLAT] => 1732351580
    [CAFXSI18NX] => th
    [_csrf] => db7913ee4b8b8830152dcc20b6642630
    [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/keepaneyeoncpfopportunities63.html
)
		
Array
(
    [content] => keepaneyeoncpfopportunities63
)
		
Array
(
)