เผยแพร่เมื่อ วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2562
การซื้อขาย TFEX หรือ เทรด TFEX ที่ได้ยินกันบ่อยๆ นั้นคือการซื้อซื้อขาย Futures หรือ Options ในตลาด TFEX นั้นเอง ซึ่งวิธีการซื้อขายและขั้นตอนก็มีความคล้ายคลึงกันกับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อยู่ทีเดียว แต่การเทรด TFEX นั้นสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง อีกทั้งยังใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่าด้วย แต่ก่อนอื่นเรามาดู 6 ขั้นตอนสำคัญที่ทำให้นักลงทุน TFEX มือใหม่ กลายเป็นมือโปรกันได้เลย..
นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวของกับการลงทุน TFEX อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ ต่างๆในตลาด TFEX ขั้นตอนวิธีการซื้อขาย กลยุทธ์การลงทุนต่างๆ รวมถึงข่าวสารการลงทุนต่างๆ เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนนั้นตามมาด้วยความเสี่ยงอยู่เสมอ (High Risk High Return) ฉะนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพื่อให้ความรู้เหล่านั้นสามารถลดความเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการไม่รู้ออกไปให้หมด (อาจจะไม่หมดแต่ควรจะทำให้ได้มากที่สุด) จนถึงระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถรับได้เพื่อผลตอบแทนที่คาดหวัง อย่างที่เราเคยได้ยินบ่อยๆว่า #การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ จะได้ไม่เจ็บตัวกันที่หลังเนอะ
การเปิดบัญชชีซื้อขาย TFEX นั้นนักลงทุนต้องเปิดกับผู้ให้บริการซึ่งต้องเป็นผู้ให้บริการที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นสมาชิกของตลาดอนุพันธ์ (Classic Ausiris ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านการซื้อขาย TFEX ครบวงจรและเป็นสมาชิกของตลาดอนุพันธ์ด้วยนะ) เพื่อความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนใน TFEX อย่างปลอดภัย และมั่นใจในคุณภาพที่ได้รับอย่างมีมาตรฐาน และเป็นไปตามกฏหมายคุ้มครอง ซึ่งเป็นประโยชนสูงสุดแก่ตัวผู้ลงทุนเอง
การซื้อขาย TFEX นั้นจะไม่ต้องชำระราคาสินทรัพย์เต็มมูลค่าเหมือนกับการซื้อขายหุ้น แต่จะวางเพียงแค่เงินหลักประกันส่วนหนึ่งหรือเงิน Margin นั้นเอง
ซึ่ง เงิน Margin หรือ หลังประกัน สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
1.Initial Margin : IM (หลักประกันขั้นต้น) เป็นหลักประกันที่นักลงทุนต้องนำเงินส่วนหนึ่งมาวางไว้กับบริษัทผู้ให้บริการเพื่อการซื้อขาย TFEX ซึ่งจำนวนเงินของหลักประกันขั้นต้นนั้น จะแตกต่างกันออกไปตามสินค้านั้นๆ โดยถูกจำนวนเงินของหลักประกันขั้นต้นจะถูกกำหนดโดยตลาดซื้อขายล่วงหน้า
2.Maintenance Margin : MM (หลักประกันรักษาสภาพ) เป็นหลักประกันที่เปรียบเสมือนระดับยอดเงินคงเหลือต่ำสุดของเงินหลักประกัน (70% ของ IM) หากยอดเงินคงเหลือของหลักประกันลดต่ำกว่าระดับนี้ นักลงทุนจะถูกเรียกให้วางเงินประกันเพิ่ม (Margin Call) โดยต้องวางเพิ่มให้กลับไปเท่ากับ IM ในครั้งแรก
3.Force Margin : FM (หลักประกันปิดสถานะ) เป็นระดับหลักประกันที่ต่ำที่สุด (30% ของ IM) ในกรณีที่นักลงทุนถูกเรียก Margin Call แล้วยังไม่นำเงินมาวางภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะปิดสถานะที่นักลงทุนถืออยู่เพื่อให้หลักประกันคงเหลือไม่ต่ำไปว่าระดับ FM
นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งการซื้อขายได้เองผ่านโปรแกรมต่างๆ ที่ทางตลาดอนุพันธ์และโบรกเกอร์ผู้ให้บริการรับรอง และยังสามารถติดต่อผู้แนะนำการลงทุนเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำและส่งคำสั่งการซื้อขาย TFEX ผ่านผู้แนะนำการลงทุนได้อีกด้วย โดยการส่งคำสั่งซื้อขายจะไม่นิยมใช้คำว่า ซื้อ (Buy) หรือ ขาย (Sell) แต่จะเป็น แต่จะใช้คำว่า Long และ Short
ในตลาด TFEX นักลงทุนควรตรวจสอบผลกำไร (ขาดทุน) รวมถึงสถานะคงค้างของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากในทุกๆสิ้นวัน สำนักหักบัญชีภายใต้ตลาดอนุพันธ์จะมีการคำนวณเงินกำไรขาดทุนของทุกๆสิ้นวัน หรือ Mark to Market หากได้กำไรจะมีการโอนเงินส่วนกำไรเข้าบัญชีอนุพันธ์ของท่านในวันทำการถัดไป ในกรณีกลับกันหากเกิดผลขาดทุนทางสำนักหักบัญชีจะหักเงินประกันที่ได้ฝากไว้แทน และหากเกิดผลขาดทุนจนเกินระดับ หลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin) ทางโบรกเกอร์จะเรียกเก็บเงินหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) โดยนักลงทุนต้องวางเงินประกันให้กลับเข้าไปเท่ากับหลักประกันขั้นต้นอีกครั้ง
นักลงทุนที่ลงทุนในตลาด TFEX ควรตรวจสอบกลยุทธ์ของตนเองอย่างสม่ำเสมอว่า กลยุทธ์ที่นักลงทุนใช้ไปนั้นตรงกับที่ท่านได้ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ และผลตอบแทนของนักลงทุนอยู่ในระดับที่นักลงทุนต้องการหรือไม่ เพราะอะไร ? เปรียบเสมือนการทำการบ้านปิดท้ายอีกครั้ง เพื่อมองหาจุดอ่อนจุดแข็งของนักลงทุนแต่ละคน เพื่อพัฒนาการเทรด TFEX ต่อไปในอนาคต เทรดเสร็จแล้วอย่าลืมทบทวนทำการบ้านจะทำให้เรายิ่งเทรดยิ่งได้ประสบการณ์ (แต่ก็ควรที่จะได้เงินเพิ่มๆขึ้นไปด้วยนะ)
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732405616 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => b62508fce8e13f70b7c34d416be7a33d [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/how-to-play-tfex.html )
Array ( [content] => how-to-play-tfex )
Array ( )