ปัจจัยกระทบทองปี 2562

---

เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2562

---

โดยนำสถิติปัจจัยที่มีผลต่อราคา Gold Spot รายวัน ที่เปลี่ยนแปลงเกิน 1% ในปี 61 เกิดขึ้น 29 ครั้ง แบ่งเป็น 4 หัวข้อใหญที่ส่งผลกระทบต่อ Gold Spot

6 ปัจจัยกระทบทองคำ ปี 62

1. สงครามการค้าสหรัฐ-จีน (การเมืองระหว่างประเทศ)
   การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่มีในวันที่ 7-9 ม.ค.2562 ใน 3 ประเด็น
   (1) การละเมิดทรัพย์ทางปัญญาของจีน
   (2) การนำเข้าและส่งออกรถยนต์
   (3) การนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตร
   หากไม่สามารถตกลง 3 ข้อนี้ได้เราจะยังเจอสงครามการค้าต่อไป เป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจโลกและเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ราคาทองคำขึ้นไปแตะบริเวณ 1,300 – 1,350 เหรียญ
2. Brexit (การเมืองระหว่างประเทศ)
   Brexit มีกำหนดลงมติในวันที่ 15 ม.ค. และวันที่ 29 มี.ค. อังกฤษต้องเดินหน้าแผน Brexit ต้องประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจของ UK และ EU หลังวันที่ 15 ม.ค. ว่าสภาอังกฤษจะลงมติผ่าน Brexit หรือไม่ หากอังกฤษออกแบบไม่มีเงื่อนไขเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
3. แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ(นโยบายการเงิน)
   FED กำหนดปัจจัยที่มีผลต่อการขึ้นดอกเบี้ยใหม่ได้แก่ ตัวเศรษฐกิจอย่าง GDP , อัตราเงินเฟ้อ ,อัตราการว่างงาน , ดัชนีภาคการผลิต และความเสี่ยงได้แก่ สงครามการค้า ,เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว หากมีการชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว และมีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
4. หนี้สหรัฐฯ (วิกฤต)
   หนี้สหรัฐฯปรับเพิิ่มเร็วมาก เพราะทรัมป์ ใช้มาตราการลดภาษี ในสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้รายได้ภาครัฐลดลงและยังกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนอื่นๆ นับเป็นการเพิ่มรายจ่าย ของสหรัฐฯหนี้ที่เพิ่มขึ้นลดความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ นับเป็นปัจจัยลบต่อ US Dollar และเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ
5. กองทุน SPDR(อุปสงค์-อุปทาน)
   SPDR กับการถือครองทองคำที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง สะท้อนมุมมองทองคำของนักลงทุนทั่วโลก เพราะ SPDR เป็นกองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
6. ความยากของปี 62 กับผู้ชายที่ชื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์”
   จับตาวันที่ 29 ม.ค. ทรัมป์จะแถลงนโยบายประจำปี จะมีนโยบายอะไรที่จะทำให้นักลงทุน ประหลาดใจอีกหรือไม่ และทรัมป์มีแนวโน้มทำสงครามการค้ากับ ญี่ปุ่น ,เกาหลีใต้ ,และเยอรมนี เนื่องจากทั้ง 3 ประเทศเป็นอันดับ 4-6 ที่ส่งสินค้าเข้าสหรัฐฯมากที่สุด จึงเป็นเป้าหมายต่อไปเมื่อจบสงครามการค้ากับจีน ส่วน 3 อันดับแรกที่ส่งสินค้าไปสหรัฐฯมากที่สุดคือ จีน , เม็กซิโก , และแคนาดา ซึ่งทรัมป์เริ่มเจรจาการค้าไปแล้วในปี 2560-2561