เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
EU เคาะมาตรการคร่ำบาตรรัสเซียเพิ่มมุ่งไปที่น้ำมัน
จากการประชุมของสหภาพยุโรป 27 ประเทศ (EU)ที่จะใช้มาตรการรัสเซียรอบใหม่ โดย EU จะลดการเข้าน้ำมันจากรัสเซียถึง 90% ภายในสิ้นปี 2565 นับเป็นมาตรคว่ำบาตรรอบที่ 5 ตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือน ก.พ. 2565
มองประเด็นการแบนน้ำมันของรัสเซียในเชิงกลยุทธ์ จะดันราคาน้ำมันดิบให้แพงมากกว่าปัจจุบัน แต่รัสเซียเริ่มหันไปขายน้ำมันให้ประเทศฝั่งเอเชียเพื่อทดแทนการ EU ขณะที่ EU น่าจะหันไปซื้อน้ำมันดิบจากซาอุฯและสหรัฐฯมากขึ้น และปลายทางของมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อไปอาจเป็นการกดดันประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของชาติตะวันตก คือ การตัดรายใช้ของรัสเซีย เนื่องจากหนึ่งสงครามให้เงินทุนเยอะ และสองการบีบให้ประชาชนของรัสเซียเลือกข้างที่ไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้น ทำให้การเมืองของรัสเซียมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากสามารถล้มรัฐบาลได้ยิ่งดี
มองเชิงการลงทุน แนวโน้มราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทที่ขายน้ำมันรับรายได้จากกำไรของสต๊อกน้ำมันที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้บวกกับ(PTTEP , TOP , SPRC , BCP , IRPC ,ESSO) เมื่อคนได้ประโยชน์ก็มีคนเสียประโยชน์ได้แก่ จากต้นทุนที่เพิ่มขึ่นได้บริษัทที่ทำธุรกิจสายการบิน(AAV) , วัสดุก่อสร้างเพราะต้นทุนวัสดุธรรมชาติอื่นๆ(TASCO) , การขนส่ง(KEX) และกลุ่มที่มีต้นทุนจากน้ำมัน(EPG,PTTEP,IVL)
และการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดันให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกเพิ่มขึ้น นับเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ส่วนหุ้นมองเป็นธนาคารพาณิชย์เพราะส่วนต่างระหว่างเงินฝากและเงินกู้กว้างขึ้นทำให้รายได้จากดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์เพิ่ม ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนกลุ่มการส่งออกจะได้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยน
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1745267083 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 6ebdc6f3e339e1695c5c79f220ad026c [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/caf-update-31-05-65.html )
Array ( [content] => caf-update-31-05-65 )
Array ( )