เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565
โอเปกพลัสมีมติลดกำลังการผลิตน้ำมัน
การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติลดกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรล/วัน เริ่มเดือน ต.ค. จากการส่งสัญญาณดังกล่าว ดันราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้น 2.03% ส่วน Brent บวก 1.98%
ทั้งนี้สมาชิกโอเปกพลัสบางส่วนต้องการคงกำลังการผลิตในเดือน ต.ค. ขณะที่บางรายต้องการปรับลดการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด โดยคาดว่าที่ประชุมมีการหารือกันในหลายปัจจัย รวมถึงความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลก คาดว่า อิหร่านจะสามารถส่งออกน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 1% ของอุปทานน้ำมันในตลาดโลก หากมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน
EU เตรียมประชุมฉุกเฉิน รับมือวิกฤตพลังงาน
โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เตรียมจัดการประชุมฉุกเฉินในวันที่ 9 ก.ย. 2565 เพื่อหาแนวทางรวมถึงวางมาตรการฉุกเฉินเพื่อควบคุมต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากวิกฤตพลังงานของยูโรโซนได้ทวีความรุนแรงขึ้น หลัง Gazprom มีการแจ้งปิดท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream 1 อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากพบการรั่วไหล
ทั้งนี้บริษัทเวอริสก์ เมเปิลครอฟต์ ปรึกษาด้านความเสี่ยงและกลยุทธ์ระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ได้จัดทำรายงานดัชนีความไม่สงบในประเทศ (Civil Unrest Index หรือ CUI) พบว่า กว่า 50% จากเกือบ 200 ประเทศที่ทำการสำรวจได้เผชิญความเสี่ยงในการเกิดขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมมากขึ้นในช่วง Q2/65 ถึง Q3/65 พบว่าประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการประท้วงมากที่สุด ได้แก่ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งปัญหาราคาสินค้าและอาหารที่แพง เป็นปัจจัยผลักดันสำคัญที่ทำให้การเคลื่อนไหวทางสังคมเปลี่ยนแปลงจากสันติสู่การประท้วงที่มีความรุนแรงมากขึ้น เรากำลังอธิบายว่า แนวโน้มราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อประเทศต่างๆ หากไม่สามารถคุมราคาน้ำมัน
Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันปีหน้าจะขึ้นไปแตะ 125 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การที่ Goldman Sachs คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันปีหน้าจะขึ้นไปแตะ 125 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากการประชุม G7 เห็นพ้องในการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย โดยมีเป้าหมายบั่นทอนฐานะทางการคลังของรัสเซีย เพื่อไม่ให้นำรายได้ไปสนับสนุนการทำสงครามกับยูเครน และสกัดการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานในตลาดโลก ซึ่งจะเริ่มใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 ธ.ค.2565 และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 ก.พ.2566
โดย Goldman Sachs วิเคราะห์ว่า มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียจะส่งให้ราคาพลังงานขึ้น เพราะคาดว่าหากเริ่มใช้มาตรการดังกล่าว รัสเซียจะเริ่มหยุดส่งออกน้ำมันไปยังประเทศใด ๆ ที่พยายามกำหนดราคาพลังงาน กระทบอุปสงค์และอุปทาน (+SET,+Gold)
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732227178 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => d6fe6ca885bec7942f2611f949eef4ea [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/caf-update-06-09-65.html )
Array ( [content] => caf-update-06-09-65 )
Array ( )