เผยแพร่เมื่อ วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2563
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเผชิญกับปัจจัยลบที่เข้ามาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่อาจนำไปสู่สงครามการค้ารอบใหม่ หรือการชุมนุมประท้วงในสหรัฐฯ หรือจะเป็นสถานการณ์ตึงเครียดในฮ่องกงที่เข้ามาสร้าง Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นเป็นพักๆ
แต่ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดก็ไม่ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร หรือ Bank สะทกสะท้านแต่อย่างใด หนำซ้ำยังเอาแต่เดินหน้าบวกอย่างไม่หยุดยั้ง และเป็นกลุ่มที่นำดัชนี SET ขึ้นมาจาก 1,300 จุดสู่ระดับ 1,400 จุด โดยมี 3 แกนนำหลัก ได้แก่ BBL, KBANK และ SCB ก่อนจะสะกิดให้ตัวอื่นๆที่เหลือจับมือตามกันมายกแผงทั้ง BAY, KKP, KTB, TCAP, TISCO และ TMB
ก่อนจะตอบคำถามว่ากลุ่ม Bank ยังมีโอกาสไปต่อหรือไม่? เรามีภาพการเคลื่อนไหวของดัชนี SET เปรียบเทียบกับกลุ่ม Bank มาให้นักลงทุนทุกท่านได้ดูไปพร้อมๆกันว่าเป็นอย่างไร(กำหนดให้แท่งสีเหลือง = SET และแท่งสีเขียว = Bank ทั้ง Sector)
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับภาพนี้ก็คือ ในช่วงตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. มาจนถึง พ.ค. กลุ่ม Bank มีการเคลื่อนไหวสวนทางกับ SET อย่างเห็นได้ชัด คาดว่ามาจากประเด็นที่ กนง. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 0.50% ทำให้หุ้นกลุ่ม Bank รับ Sentiment ลบระยะสั้นไปก่อนด้วยปัจจัยลบเสริมก็คือการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และหลังจากนั้นไม่นาน Bank ก็พากันลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตาม ทำให้ราคาหุ้น Bank เริ่มหยุดการไหลลงต่อ
จุดเปลี่ยนสำคัญ คือ ณ ดัชนี SET ที่ 1,300 จุด เป็นช่วงที่หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยเริ่มมีการพูดถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะทำให้ทั้งภาคธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินการได้ ส่วนภาคครัวเรือนจะกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นกว่าเดิม และบางธุรกิจที่ได้รับผลกระทบไม่มากจากการระบาดของโควิด-19 มีโอกาสขยายธุรกิจของตัวเอง สรุปง่ายๆก็คือ การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ มีโอกาสที่จะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว และเป็นโอกาสของกลุ่ม Bankในสถานการณ์ที่ดอกเบี้ยในบ้านเราต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์แบบนี้ เพราะถ้าเศรษฐกิจมีโอกาสฟื้นตัว ความต้องการขอสินเชื่อหรือการกู้เงินก็มีแนวโน้มที่จะกลับมา
ทำให้กลุ่ม Bank ปรับตัวบวกขึ้นมายกแผงในวันที่ 25-26 พ.ค. และลากยาวต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ (4 มิ.ย. 63) รับช่วงต่อการดันดัชนี SET ขึ้นมาอีก 100 จุดมาทดสอบ 1,400 จุด พร้อมกับปริมาณซื้อขายจำนวนมาก...ต่อไป เราจะมาตอบคำถามกันครับว่า กลุ่ม Bank ที่ขึ้นมามากขนาดนี้ มีโอกาสไปต่อหรือไม่?
หากวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน เรามีประเด็นที่ต้องให้ความสนใจ 3 เรื่องที่จะกระทบกลุ่ม Bank ดังนี้
สรุปก็คือ กลุ่ม Bank ยังมีโอกาสที่จะไปต่อ ถ้าสถานการณ์ต่างๆ ยังอยู่ในแนวโน้มที่ดี ประกอบกับราคาหุ้นเป็นขาขึ้นพร้อมปริมาณซื้อขายจำนวนมาก แถมช่วงนี้ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยติดต่อกันหลายวันด้วย ดังนั้น เราจึงแนะนำ “ถือ” หุ้น Bank ต่อไปและยก Stop Loss ตามแนวรับของหุ้นแต่ละตัว โดยเฉพาะ BBL, KBANK และ SCB ส่วนตัวอื่นที่กำลังตามมาอย่าง KKP ก็สามารถเข้าไปซื้อสะสมเพิ่มได้ หรือเปิด Long ในKKP Futures ก็ได้ เพราะทางเทคนิคเพิ่งคอนเฟิร์มขาขึ้นและเพิ่งจะออกตัวได้ไม่นาน โดยมี45 บาท เป็นจุด Stop Loss
ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่มีโอกาสกระทบกลุ่ม Bank ที่เราจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พลาดจังหวะการลงทุนในกลุ่ม Bank ไม่ว่าท่านนักลงทุนจะถือหุ้น Bank กันมาตั้งแต่ก่อน SET1,300 จุด หรือมาเข้าระหว่างทางก็ตาม หากถึงเวลาที่ภาพรวมตลาดเปลี่ยนแปลง หรือ Sentiment เปลี่ยนไป ก็อาจจะเป็นเวลาที่ต้องลดพอร์ตการลงทุนในหุ้น และหันมาใช้เครื่องมืออย่าง Single Stock Futures ในการ Short ก็ได้
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732329331 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => a13753d823f189eca903bc677eecaaae [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/bank-single-stock-futures-63.html )
Array ( [content] => bank-single-stock-futures-63 )
Array ( )