เผยแพร่เมื่อ วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2564
เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนที่หุ้นโลจิสติกส์ยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนอย่าง KEX หรือ บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) ได้เข้ามาโลดแล่นในตลาดหุ้นไทย ด้วยราคา IPO เพียง 28 บาท สู่การเปิดซื้อขายวันแรกด้วยราคา 65 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 132% ผลจากการที่ราคาเปิดซื้อขายวันแรกพุ่งขึ้นแรง ทำให้เกิดแรงขาย ส่งผลให้ราคาไหลลงมาที่ 48-50 บาท
หลังจากลงมาซื้อขายในโซน 48-50 บาทอยู่ระยะหนึ่ง KEX ก็เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยเฉพาะในวันที่ 8 ม.ค. 64 ที่ราคาหุ้น KEX พุ่งสู่ระดับเหนือ 50 บาทอีกครั้ง ด้วยปริมาณซื้อขายจำนวนมาก การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น KEX กลายเป็นแรงหนุนให้กับ VGI หรือ บมจ.วีจีไอ ซึ่งถือหุ้น KEX ถึง 19% ปรับตัวขึ้นด้วย
มาวิเคราะห์ธุรกิจของ KEX กันก่อน ปัจจุบัน Kerry Express ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการเกือบ 99% ทั่วประเทศ มีจุดให้บริการมากกว่า 16,000 จุด และจากลักษณะการให้บริการครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่บุคคลส่งถึงบุคคล (C2C) ธุรกิจส่งถึงบุคคล (B2C) และ ธุรกิจส่งถึงธุรกิจ (C2C) ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ธุรกิจของ Kerry Express มีแนวโน้มเติบโตต่อไปได้อีก
ที่สำคัญ ธุรกิจของ KEX มีแนวโน้มเติบโตไปตามการเติบโตของตลาด E-Commerce ซึ่ง KEX รายงานอัตราการเติบโตของบริษัทตั้งแต่ปี 2557-2562 เฉลี่ยอยู่ที่ 134.9% ถือเป็นบริษัทเอกชนที่ประกอบธุรกิจจัดส่งพัสดุที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่กระแสการตลาดออนไลน์ และ E-Commerce กำลังเติบโตด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น การระบาดของ COVID-19 ทำให้ภาพรวมธุรกิจขนส่งพัสดุมีแนวโน้มขยายตัวได้อีก เนื่องจากคนส่วนใหญ่เข้าสู่การ Work From Home และหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน แต่ในการทำงานที่ยังต้องส่งเอกสารหรือพัสดุ หรือสั่งสินค้าออนไลน์แทนการออกไปซื้อตามห้างสรรพสินค้า จำเป็นต้องใช้ตัวแทนในการจัดส่ง ส่วนนี้เองทำให้ Kerry Express ได้รับ Sentiment บวกไปด้วย
ทางฝั่งผู้ถือหุ้นของ KEX อย่าง VGI เอง แม้จะได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของธุรกิจ Kerry Express แต่ด้วยภาพรวมธุรกิจหลักอย่างการให้บริการด้านโฆษณา ยังได้รับผลกระทบเชิงลบจากโควิด-19 ในแง่ของการโฆษณาที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการต่างๆ หรือลูกค้าของ VGI เองอาจเล็งลดต้นทุนการโฆษณาลงเพื่อรักษาสภาพคล่องให้อยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ไปก่อน เมื่อไรก็ตามที่เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังการระบาดของโควิด-19 ความต้องการโฆษณาก็จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เราจึงให้คำแนะนำว่า หากต้องการลงทุนใน VGI ควรติดตามที่ธุรกิจหลักอย่างการโฆษณา ก่อนจะติดตามธุรกิจอื่นที่ VGI เข้าไปลงทุน เช่นในธุรกิจ Payment เข่น Rabbit Card และธุรกิจขนส่งพัสดุอย่าง Kerry Express ทั้งนี้ เรามีมุมมองต่อความหลากหลายของธุรกิจที่ VGI เข้าไปลงทุนว่าเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในระยะยาว และมีการเติบโตตาม Cycle ของเศรษฐกิจ แต่สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ เช่น การขนส่งพัสดุ จะมีความพิเศษตรงที่มีกระแสการเติบโตของตลาด E-Commerce เข้ามาหนุนอีกแรง จึงทำให้หุ้น KEX เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หากต้องการลงทุนระยะยาว
สำหรับ VGI เราทราบแล้วว่าธุรกิจโฆษณายังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อยู่ แต่สำหรับมุมมองทางเทคนิค การปรับตัวขึ้นมาซื้อขายเหนือ 7 บาท ทำให้ภาพรวมดูดีขึ้นมาทันที ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ราคาหุ้น KEX ปรับตัวขึ้นมาในช่วง 2-3 วันทำการก่อนหน้านี้ เรามาวิเคราะห์กันดีกว่าว่าแนวโน้มราคาหุ้น VGI เป็นอย่างไร และเปิดสถานะ Long ได้หรือไม่
ราคาหุ้น VGI ปรับตัวขึ้นมาได้ดีในลักษณะของการ Sideway กรอบกว้างๆ หลังจากทะลุแนวต้าน 7 บาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบแนวต้าน 7.60 บาท ณ จุดนี้เอง หากผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 8 บาท เราให้คำแนะนำรอการพักตัวบริเวณ 7.20-7.30 บาทในการเปิดสถานะ Long โดยใช้การหลุด 7 บาทเป็นจุด Stop Loss และเป้าหมายทำกำไรจุดแรกที่แนวต้าน 7.60 บาท
หมายเหตุ: ราคาหุ้น ณ วันที่ 13 ม.ค. 63
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732308340 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 0273a0e8ba02a16c225dfed74a5fa155 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/analyze-vei-kex-stocks-2021.html )
Array ( [content] => analyze-vei-kex-stocks-2021 )
Array ( )