เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
ราคาหุ้น SCGP หรือ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง พุ่งทำ All Time High อีกครั้ง สู่ระดับเหนือแนวต้านเดิมที่ 66.50 บาท ในวันที่ 29 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา หลังการประกาศผลการดำเนินงาน Q2/64 มีแนวโน้มดีขึ้น พร้อมประกาศจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น ทำให้ SCGP เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นพิเศษ ในเวลาที่ภาพรวมของตลาดเป็นขาลง วันนี้เราจะวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของ SCGP เพื่อนำไปสู่กลยุทธ์ว่า ถ้าจะเปิด Long ใน Single Stock Futures ของ SCGP ตอนนี้ ทันหรือไม่?
ผลการดำเนินงาน Q2/64 ของ SCGP ประกาศรายได้จากการขายไว้ที่ 29,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก Q1/64 ที่มีรายได้จากการขาย 27,253 ล้านบาท (+9.69% QoQ) และเพิ่มขึ้นจาก Q2/63 ที่มีรายได้จากการขาย 21,636 ล้านบาท (38.17% YoY) โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และธุรกิจเยื่อและกระดาษ ซึ่งเพิ่มขึ้น 37% YoY และ 45% YoY ตามลำดับ
รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ หลังการระบาดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ SCGP มีการขยายธุรกิจออกสู่ต่างประเทศมากขึ้น เช่น การเข้าไปถือหุ้นของบริษัท Go-Pak ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร เมื่อ Q1/64 และตามรายงาน MD&A Q2/64 ที่ผ่านมา SCGP ก็ประกาศลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 2 โครงการ ได้แก่
1. เข้าถือหุ้น 75% ของบริษัท Intan Group ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซีย เป็นการขยายฐานการผลิตสู่ประเทศอินโดนีเซียซึ่งมีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยดีลนี้คาดว่าจะปิดได้ในเดือน ก.ค. – ส.ค.
2. เข้าถือหุ้น 85% ของบริษัท Deltalab ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ในสเปน เป็นการเข้าสู่ตลาดวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ และเสริมความแกร่งให้กับธุรกิจของ SCGP ในระยะยาว และคาดว่าดีลนี้จะปิดได้ในเดือน ก.ย. 64
ด้าน EBITDA ใน Q2/64 SCGP รายงานไว้ที่ 5,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก Q1/64 จำนวน 5,267 ล้านบาท (+5.63% QoQ) และเพิ่มขึ้นจาก Q2/63 ที่รายงาน EBITDA ไว้ที่ 5,083 ล้านบาท (+9.46% YoY) สะท้อนว่ากำไรจากการดำเนินงานของ SCGP เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (EBITDA เป็นกำไรจากการดำเนินงาน ก่อนหักรายการทางบัญชี เช่น ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ภาษีเงินได้ และต้นทุนทางการเงิน)
ด้านกำไรสุทธิ SCGP รายงานตัวเลขใน Q2/64 ไว้ที่ 2,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก Q1/64 ที่มีกำไรสุทธิ 2,135 ล้านบาท (+5.99% QoQ) และเพิ่มขึ้นจาก Q2/63 ที่มีกำไรสุทธิ 1,904 ล้านบาท (+18.85% YoY) ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย และการบริหารต้นทุนที่ดี ส่วนในรอบครึ่งแรกของปี 64 SCGP รายงานกำไรสุทธิจำนวน 4,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกของปี 63 ที่มีกำไรสุทธิ 3,636 ล้านบาท (+20.95% YoY)
สรุป ผลการดำเนินงานของ SCGP มีการเติบโตขึ้น จากการขยายกำลังการผลิต และการเข้าลงทุนในบริษัทด้านบรรจุภัณฑ์ ที่เริ่มมีการรับรู้รายได้แล้วใน Q2/64 ทั้งนี้ การประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.25 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 9 ส.ค. 64 ในสถานการณ์ที่ภาพรวมตลาดค่อนไปทางลบ นักลงทุนจึงให้ความสนใจกับหุ้น SCGP มากขึ้น ด้วยเหตุผลด้านผลตอบแทนจากการลงทุน และทิศทางการดำเนินธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ 23 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา SCGP ประกาศปิดดีลเข้าถือหุ้น 70% ของบริษัท Duy Tan ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบคงรูปในประเทศเวียดนาม ตามที่ได้เริ่มลงนามเข้าซื้อหุ้นในเดือน ก.พ. 64 โดยจะเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานในเดือน ส.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะทำให้รายได้จากการขายของ SCGP มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกใน Q3/64 ก็ยิ่งทำให้หุ้น SCGP มีความน่าสนใจขึ้นไปอีก
คำถามคือ หากต้องการเข้าซื้อหุ้น หรือเปิด Long ใน Single Stock Futures ตอนนี้ ยังทันหรือไม่? เราใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค พบว่าราคาหุ้น SCGP มีแนวโน้มขาขึ้น กรอบการเคลื่อนไหวปัจจุบัน มองแนวรับ 61 บาท และแนวต้าน 69.50 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบแนวต้านดังกล่าว
เราคาดว่าราคามีโอกาสถอยกลับมาทดสอบบริเวณ 63-64 บาทอีกครั้ง ซึ่งจุดนั้นจะมีความได้เปรียบตรงที่จุด Stop Loss สั้นกว่าราคาปัจจุบัน เราจึงแนะนำให้รอการย่อลงมาที่ระดับ 63-64 บาท เพื่อเปิดสถานะ Long ใช้แนวรับ 61 บาทเป็นจุด Stop Loss สำหรับท่านที่มีการเปิดสถานะ Long ก่อนหน้านี้ สามารถทยอยปิด Long บริเวณ 68-69 บาท เพื่อรอถอยกลับมา แล้วเข้าเปิด Long ใหม่เมื่อมีการย่อ
หมายเหตุ: ราคาหุ้น ณ วันที่ 29 ก.ค. 64
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732311973 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 4e22f617fe15f2e9b8247426bc530b5a [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/analyze-scgp-stock-2021.html )
Array ( [content] => analyze-scgp-stock-2021 )
Array ( )