เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564
นับว่าวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลกเป็นปัจจัยสำคัญส่งให้ราคาทองปรับขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์แตะ 2,070 เหรียญ เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ 3 อย่าง
1.การเกิดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ อย่าง 1.สายพันธุ์บราซิล (P.1) 2.สายพันธุ์แอฟริกาใต้ (B.1.351) และ 3.สายพันธุ์สหราชอาณาจักร (B.1.1.7) ซึ่งสายพันธุ์ที่กล่าวมา ไวรัสมีคุณสมบัติจับผิวเซลล์มนุษย์ได้ดีขึ้น อีกทั้ง ในห้องทดลอง พบว่าไวรัสมีประสิทธิภาพในการแบ่งตัวดีขึ้น สรุปคือ โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ ติดเชื้อง่ายขึ้นมากๆ กระทบนักลงทุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
2.การระบาดโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบต่อการลงทุน และการบริโภคของประชาชน ทำให้นักลงทุนไม่กล้าลงทุนในธุรกิจ และนักลงทุนที่มีธุรกิจอยู่แล้วได้ผลกระทบกับธุรกิจของตน โดยผลสำรวจซึ่งจัดทำจาก Coresight Research เป็นบริษัทวิจัยตลาดในสหรัฐฯได้ระบุว่า นับตั้งแต่ Q1/63 ถึง Q1/64 มีธุรกิจค้าปลีก 8,400 แห่งและร้านอาหารในสหรัฐประมาณ 17% หรือ 110,000 แห่งได้ปิดตัวลงอย่างถาวรในปีนี้ และมีอีกหลายพันแห่งอยู่ในภาวะที่ใกล้จะต้องปิดตัวลง ซึ่งปัญหาการปิดตัวมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาด ปัญหาหนี้สิน และการเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าและการรับประทานอาหาร ทั้งนี้ปัจจัยจากโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลลบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการซื้อขายทองคำทั่วโลกจะให้ค่าเงินดอลลาร์ในการแลกเปลี่ยน ฉะนั้นการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า ทำให้มูลค่าในการซื้อขายทองคำเพิ่มขึ้น
3.การแก้ไขปัญหาของโควิด-19 ของนานาประเทศ ที่กระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะสหรัฐฯที่กระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลทั้งภาคการเงินและการคลัง แต่เงินที่นำมากระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศมาจากการกู้ยืม ทำให้หนี้สาธารณะทั่วโลกจะพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 99% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมทั่วโลก (World GDP) ในปีนี้ เนื่องจากหลายประเทศได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากนับการกู้และการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า
นี่คือ ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำขึ้นก่อนหน้านี้และหลังจากนี้มีโอกาสส่งให้ราคาทองคำขึ้นไปอีกรอบ ซึ่งการกล่าวถึงโควิด-19 พันธุ์ใหม่กว่า คือ ในเดือนเมษายน 2564 มีการเจอโควิด-19 พันธุ์ใหม่ ได้แก่
1.โควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดีย(B.1.617) โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ ซึ่งอุบัติขึ้นในอินเดีย สามารถเพิ่มอัตราการติดเชื้อและหลบหลีกการป้องกันทางภูมิคุ้มกันได้ ทำให้ยอดการติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
2. โควิดกลายพันธุ์ E484K หรือมีชื่อเล่นสั้นๆ ว่า “Eek” จากญี่ปุ่น อาจมีความต้านทานต่อวัคซีนสูงกว่าสายพันธุ์ปกติ เนื่องจากตรวจพบการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งหนามโปรตีน
3.โควิด-19 สายพันธุ์แคลิฟอร์เนีย โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ได้กำหนดให้เชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ชนิดกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์ ที่พบครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนียเป็น “สายพันธุ์ที่น่ากังวล” (VOC) อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีผลกระทบต่อปฏิกิริยาลบล้างฤทธิ์ของแนวทางการรักษาแบบฉุกเฉิน (EUA) รวมถึงการลดประสิทธิภาคของยาต้านโควิด-19
4.บราซิลพบหลักฐานการกลายพันธุ์เพิ่มเติมของไวรัสที่ก่อโรค COVID-19 สายพันธุ์ P1 ซึ่งทำให้การระบาดในบราซิลเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางข้อกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของวัคซีน ทั้งนี้การกลายพันธุ์ยังสามารถติดกับเด็กง่ายขึ้นกว่าสายพันธุ์เดืม
ซึ่งโควิด-19 กลายพันธุ์ของ 4 ประเทศที่เรากล่าวมามีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ หากมีการระบาดรอบใหม่จะทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นมากกว่ารอบที่แล้ว เนื่องจาก
1.การระบาดโควิด-19 อาจทำให้ยาต้านที่ผลิตขึ้นมาไร้ผล ต้องใช้เวลารอคอยในการได้ยาต้านตัวใหม่ ซึ่งระหว่างที่รอการระบาดโควิด-19 เพิ่มขึ้น สังเกตได้จาก สหรัฐฯที่สามารถฉีดยาต้านโควิด-19 ให้กับประชากรมากถึง 157 ล้านโดส เท่ากับว่าฉีดในสหรัฐฯครึ่งประเทศไปแล้ว แต่การระบาดโควิด-19 ในสหรัฐฯยังเกิดขึ้น ราว 50,000-60,000 รายต่อวัน ซึ่งการระบาดที่เราเจอก็มาจากโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ที่สามารถชนะยาต้านได้
2.การระบาดรอบใหม่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากกว่ารอบก่อน เนื่องจากการเสริมสภาพคล่องของธุรกิจในรอบก่อน อาจเป็นเงินก้อนสุดท้าย หรือมาจากเงินกู้ ซึ่งการเกิดระบาดโควิด-19 รอบใหม่ จะสร้างความเสี่ยงที่ธุรกิจปิดตัวลงอย่างถาวร และประเทศต่างจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยการกู้ยืมเพิ่ม ซึ่งจะสร้างหนี้สาธารณะเพิ่ม
สรุปการกลายพันธุ์ของโควิด-19 มีความเสี่ยงสร้างการแพร่ระบาดรอบใหม่ และอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากกว่ารอบก่อน และตามมาด้วยการปรับขึ้นของราคาทองคำรอบใหม่ หรืออาจมีโอกาสทำราคาทองคำสูงสุดรอบใหม่
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732289193 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => e7cc1c336718b653261251f330133fc2 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/analyze-gold-2021.html )
Array ( [content] => analyze-gold-2021 )
Array ( )