สะสมรับเหมา คาดครึ่งปีหลังงานรัฐแน่น

---

เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2566

---

แม้หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็นกลุ่ม Domestic Play ที่มีรายได้ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ ซึ่งได้รับผลบวกจากเศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่สูงขึ้น แต่ในระยะสั้นอาจเห็นการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ด้วย 3 เหตุผล

1.โครงการลงทุนภาครัฐเริ่มชะลอตัว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาในวันที่ 20 มี.ค. 66 นำไปสู่การจัดการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 66 ทำให้รัฐบาลเปลี่ยนเป็นรัฐบาลรักษาการ ซึ่งไม่สามารถอนุมัติงานหรือโครงการที่มีผลผูกพันกับคณะรัฐมนตรีชุดต่อไปได้ ซึ่งโครงการรับเหมาก่อสร้างภาครัฐฯ มีมูลค่าสูงทำให้มีผลผูกพันกับคณะรัฐมนตรี ชุดต่อไป ส่งผลให้โครงการอนุมัติการลงทุนก่อสร้างภาครัฐเลื่อนออก จนกว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่ กระทบ Backlog ของหุ้นรับเหมาก่อสร้างเริ่มชะลอตัว เป็น Sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มก่อสร้าง

2.ผลประมูลทางด่วน “กะทู้ ป่าตอง”
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เผยโครงการทางพิเศษสายกะทู้ ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กม. วงเงินลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาท กำหนดรับซองเอกสารข้อเสนอสิ้นสุดวันที่ 7 เม.ย. 66 ผลออกมา ไม่มีบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เข้ายื่นซองประมูล แม้ว่ามีบริษัทเอกชนเข้าซื้อซองถึง 13 บริษัท เพราะผลตอบแทนไม่คุ้มค่า ส่งผลให้ ไม่มีบริษัทใดได้ Backlog จากโครงการนี้ กระทบ Sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

3.ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สศค.) Q1/66 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน มี.ค. 66 เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 65(YoY) และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับ Q4/65(QoQ) เพราะต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า จากค่า FT ในงวดเดือน ม.ค. ถึง เม.ย. 66 ของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นแตะ 1.5492 บาทต่อหน่วย จากงวดก่อนที่ 0.9343 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นมากถึง 65.81%

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มปรับขึ้น ซึ่งจะหนุนต้นทุนพลังงานเพิ่มสูงขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร(OPEC+) ประกาศปรับลดกำลังการผลิต โดยสมัครใจเพิ่มขึ้นอีก 1.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันโดยรวมของ OPEC+ แตะ 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 3.7% ของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก ซึ่งการปรับลดกำลังการผลิตตามความสมัครใจจะ เริ่มเดือน พ.ค. ถึง สิ้นปี 66 กดปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลง ดันแนวโน้มราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น กระทบต้นทุนวัตถุดิบและการขนส่งของหุ้นรับเหมาก่อสร้างเพิ่มขึ้น

เนื่องจากหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมี Sentiment เชิงลบจาก โครงการก่อสร้างภาครัฐฯที่เริ่มชะลอตัว จากการยุบสภาทำให้รัฐบาลกลายเป็นรัฐบาลรักษาการ และ Sentiment เชิงลบจากไม่มีใครได้งานประมูลทางด่วน กะทู้ ป่าตอง รวมทั้งราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นใน Q1/66 จากต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันที่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังกลุ่ม OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิตต่อวันลงอีก ดันแนวโน้มราคาน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ส่งต้นทุนของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเพิ่มขึ้น กดกำไรของหุ้นกลุ่มก่อสร้างลง ทำให้ระยะสั้นหุ้นรับเหมาก่อสร้างมีโอกาสปรับตัวลง

ทั้งนี้หุ้นกลุ่มรับเหมาจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งหลังการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 14 พ.ค. 66 เพราะเห็นความชัดเจนของรัฐบาลใหม่และรัฐบาลใหม่จะสามารถอนุมัติโครงการก่อสร้างภาครัฐบาลได้อีกครั้ง หนุนปริมาณ Backlog ในมือหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างสูงขึ้น รวมทั้งใน Q2/66 ราคาค่าไฟฟ้าจะปรับลดลงจากค่า FT ของภาคธุรกิจ งวด พ.ค. ถึง ส.ค. 66 จะลดลงเหลือ 0.9827 บาทต่อหน่วย จาก 1.5492 บาทต่อหน่วยในงวดก่อน ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีแนวโน้มลดลงและดันกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวลงมา ก็เป็นโอกาสในการสะสมเข้าพอร์ตของนักลงทุน

ส่วนนักลงทุนมีหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างอยู่ในพอร์ตการลงทุนแต่กังวลการปรับตัวลงในระยะสั้น ก็สามารถป้องกันความเสี่ยงได้โดยการเปิดสถานะ Short ใน Single Stock Futures หรือ Block Trade ของหุ้นที่ถืออยู่ โดยมูลค่าในการเปิดสถานะ Short เท่ากับหรือใกล้เคียงกับมูลค่าหุ้นที่นักลงทุนถือ