เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2565
บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอที ประเภทคอมพิวเตอร์แล็บท็อป คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง ผ่านช่องทางการจำหน่ายหลัก รวมทั้งให้บริการศูนย์ซ่อมสินค้าแบรนด์ Apple วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อรายได้ในไตรมาส 4 ปี 2565 และกำหนดกลยุทธ์ เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจให้กับนักลงทุน
แหล่งรายได้ของ COM7
1.ธุรกิจค้าปลีก 87.7%
2.ช่องทางจำหน่ายอื่น 12.3%
มีทั้งหมดสาขา 1,113 สาขา ภายใต้
แบรนด์ ดังนี้ BaNANA, Studio7,
KingKong Phone,iCare, BKK, E-quip,
Bb, B-Play, Franchise, True Shop by Com7 และ Brand shop
ไตรมาส 3 ปี 2565 มีการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก ถึง 46.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 มาจากยอดขาย iPhone 14 ของประเทศไทย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ประเทศไทยขึ้นเป็นประเทศ Tier-1 ของการจำหน่าย iPhone 14 และ COM7 เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ปัจจุบันมีปัจจัยที่เข้ามากระทบ คือโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ ในเจิ้งโจว เป็นโรงงานผลิต iPhone ที่ใหญ่สุดของ Apple โดยผลิต iPhone คิดเป็นสัดส่วน 70% ของยอดการส่งมอบทั่วโลก คาดการณ์ปริมาณการผลิตจะลดลงอย่างน้อย 30% เกิดจากการประท้วงของคนงาน ทำให้โรงงานฟ็อกซ์คอนน์ ไม่สามารถกลับมาเดินสายการผลิตทั้งหมดได้ภายในสิ้นเดือน พ.ย. 2565 โดยสาเหตุมาจากการระบาดของโควิด-19 ในเมืองเจิ้งโจว นำไปสู่มาตรการล็อกดาวน์เมืองเจิ้งโจวในวันที่ 17 ต.ค. 2565 และมาตรการที่เข้มงวดในโรงงาน สร้างความไม่พอใจแก่แรงงานที่ถูกกักตัว อยู่ภายในโรงงานเพื่อสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 นำไปสู่การประท้วงของแรงงาน โดยทางโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ แก้ปัญหาโดย ตัดสินใจเสนอเงินพิเศษให้กับพนักงานที่เลือกลาออก เพื่อลดความรุนแรงของการประท้วง มีผลให้โรงงานเกิดการขาดแคลนแรงงาน หลังแรงงานตัดสินใจลาออกมากกว่า 20,000 ราย รวมถึงปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่งผลให้ปริมาณการผลิต iPhone ในไตรมาส 4 ปี 2565 ลดลง
เนื่องจาก COM7 มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้า Apple สูง เมื่อมีปัจจัยลบมากระทบกับความสามารถในการจำหน่ายในสินค้า Apple จะทำให้รายได้ของ COM7 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากปัจจัยข้างต้น ทำให้ปริมาณ iPhone และสินค้า Apple ที่จะจัดจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ของ COM7 มีแนวโน้มน้อยลง กระทบให้รายได้ของ COM7 ในไตรมาส 4 มีโอกาสมากที่จะลดลง
ดังนั้นเราจึงวางกลยุทธ์การลงทุน COM7H23 ในฝั่งขายเมื่อราคาหลุด 31.25 บาท เป้าหมายที่ 29.75-27.50 บาท และจุดตัดใจ สิ้นวัน 33 บาท โดยเริ่มต้นการลงทุนใช้เงินเพียง 2,835 บาทเท่านั้น หรือ Block Trade เริ่มต้น 100 สัญญา
Array ( )
Array ( [sesCAFXXSLAT] => 1732222670 [CAFXSI18NX] => th [_csrf] => 2919b96ae346ebfd01ed432228fb5aa7 [CAFXSFEREF] => https://www.caf.co.th/article/analyze-com7-stock-2022.html )
Array ( [content] => analyze-com7-stock-2022 )
Array ( )