AOT ขาดทุนต่อเนื่อง น่า Short หรือไม่

เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ผลกระทบจากโควิด-19 ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อหุ้นที่มี Market Cap ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของตลาดหุ้นไทยอย่าง AOT หรือ บมจ.ท่าอากาศยานไทย ที่เพิ่งจะประกาศผลการดำเนินงาน Q1/64 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 63 (เทียบเท่ากับ Q4/63 ของบริษัทอื่นๆ) ซึ่งไม่ผิดไปจากที่นักลงทุนหลายท่านคาดไว้อย่างแน่นอน วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของ AOT ว่าเป็นอย่างไร? และควรเปิดสถานะ Short ใน Single Stock Futures หรือไม่?

มาวิเคราะห์ผลการดำเนินงานกันก่อน AOT ประกาศผลการดำเนินงาน Q1/64 ขาดทุนสุทธิ 3,441.98 ล้านบาท จากที่มีกำไรสุทธิในช่วงเดียวกันของปีก่อน 7,334.72 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายและบริการที่ลดลงเหลือ 2,176.28 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการ 16,104.68 ล้านบาท หรือลดลงราว -86.49% YoY

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาดูในแบบ QoQ พบว่า AOT ขาดทุนลดลงเล็กน้อยจากใน Q4/63 ที่ขาดทุนถึง 3,727 ล้านบาท ทั้งนี้ เรายังไม่มองว่า AOT พ้นจุดต่ำสุดไปแล้วและกำลังจะฟื้นตัวในเร็วๆนี้ เหตุหลักๆ คือ การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป แม้จะคิดค้นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้แล้ว แต่การกระจายวัคซีนในหลายๆประเทศยังล่าช้า ทำให้ความมั่นใจในการเดินทางระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ และน่าจะส่งผลกระทบกดดันต่อรายได้จากธุรกิจการบินต่อไป
อีกส่วนก็คือ รายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่การบินก็ลดลงเช่นกัน ได้แก่ การให้เช่าพื้นที่ภายในสนามบินสำหรับร้านอาหาร หรือผู้ประกอบการรายอื่นๆ หลังจากที่ AOT ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ด้วยการลดค่าเช่า หรือเลื่อนการชำระออกไปจนถึง Q1 ปี 65 ทำให้รายได้ของ AOT ในส่วนนี้ลดลงไปมหาศาล และคาดว่าน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ก็ต่อเมื่อการเดินทางระหว่างประเทศกลับมาเป็นปกติ ซึ่งน่าจะใช้เวลาฟื้นฟูไปอีกราว 2-3 ปี ตามที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA เคยรายงานไว้ นอกจากนี้ เมื่อพลอตรายได้และกำไรสุทธิของ AOT ออกมาเป็นกราฟ ยิ่งทำให้เราได้ข้อสรุปว่า AOT ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวแต่อย่างใด

สรุปคือ ผลการดำเนินงานของ AOT ใน Q1/64 ยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จึงทำให้รายได้ลดลงและสะสมการขาดทุนต่อเนื่อง โดยผลกระทบนี้จะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าโควิด-19 จะเบาลงจนความมั่นใจในการเดินทางระหว่างประเทศกลับมาเป็นปกติ หรือก่อนไวรัสระบาด ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี เราจึงมองว่าหุ้น AOT จะเป็นหุ้นที่ทำกำไรฝั่งซื้อได้ยากในช่วงนี้ หากไม่มีปัจจัยบวกจากมาตรการภาครัฐ ด้านการท่องเที่ยว หรือต่อให้มีปัจจัยบวกดังกล่าว ก็จะเป็นบวกต่อราคาสั้นๆเท่านั้น

เมื่อวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค พบว่า AOT มีแนวโน้มเป็นขาลงในกรอบ 58-64 บาท หากนำปัจจัยพื้นฐานในเรื่องรายได้และกำไรสุทธิที่ลดลงเข้ามาประกอบการตัดสินใจ เราให้คำแนะนำว่าสามารถเปิดสถานะ Short ใน AOT Futures ได้บริเวณ 63-64 บาท มีเป้าหมายทำกำไรที่ 58-60 บาท กำหนดจุด Stop Loss เมื่อมีการทะลุ 64.50 บาท ณ สิ้นวัน